xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เจาะแนวคิดจีนรุ่นใหม่กับ “บริษัทแกล้งทำงาน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“บริษัทแกล้งทำงาน” เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ที่เปิดพื้นที่ให้คนมานั่งทำงานแบบ “เสมือนทำงานในออฟฟิศ”  โดยเก็บวันละ 30 หยวน  (ภาพจากสื่อจีน )
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล

ปรากฏการณ์หนึ่งในสังคมจีนที่พูดถึงกันมากและเป็นไวรัลในโลกโซเชียลมีเดียจีนคือ การจัดตั้งบริษัทหรือสำนักงานที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถจ่ายเงินรายวันเข้าไปนั่งเสมือนนั่งทำงานในสำนักงานบริษัท ซึ่งจีนเรียกว่า “บริษัทแกล้งทำงาน” (假装上班)แนวคิดที่ไปบริษัทและแกล้งทำเป็นมีงานทำดูเหมือนเป็นแนวคิดที่แปลก แต่หากว่ามองให้ลึกลงไปแล้วจะเห็นว่าตอบโจทย์คนบางกลุ่มที่ยังไม่มีงานทำหรือมีงานทำอยู่ แต่อยากหาที่นั่งเล่นคอมฯหรืออ่านหนังสือ


ในประเทศที่ประชากรในเมืองมหาศาล คนที่ไม่ได้ทำงานแต่อยากออกจากบ้าน จะไปห้องสมุดคนก็แน่น จะไปร้านกาแฟคนก็แน่นแถมเสียงดัง ดังนั้นการมีสถานที่ที่หนึ่งที่สามารถนั่งได้หลายชั่วโมง มีโต๊ะ เก้าอี้ มีแอร์เย็น มีโซนชา กาแฟ ห้องน้ำสะอาด แบบนั่งสบายเหมือนในออฟฟิศ เสียค่าเข้าครั้งละ 30-50 หยวนหรือมากกว่านั้นตามความสิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราของสถานที่ก็ถือว่าคุ้มค่า

ที่กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ซีอาน และฮาร์บิน ได้เกิดกระแสดังกล่าวมากขึ้น จริงๆแล้วก็คือการจ่ายเงินเพื่อแลกกับการใช้บริการพื้นที่สำนักงานร่วม หรือที่เรียกว่า co-working space นั่นเอง “บริษัทแกล้งทำงาน” เป็นเพียงแนวคิดการทำงานหรือกลยุทธ์ทางการตลาดเท่านั้นเพราะถ้าตั้งชื่อแบบนี้จะเป็นที่สนใจ ผู้ที่รวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นกลุ่มคนสตาร์ทอัพ บางคนต้องการใช้พื้นที่ทำงานร่วมราคาประหยัด บางคนกำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเริ่มต้นกิจการ ขณะที่บางคนก็แค่ต้องการมีที่หลบภัยเงียบๆ อยู่กับตัวเอง เป็นต้น

หลังเทศกาลตรุษจีนปี 2025 ที่ผ่านมา มีบัญชีวีแชทหนึ่งชื่อว่า “บริษัทแกล้งมาทำงาน จำกัด (ปักกิ่ง)” โพสต์ข้อความบนอินเทอร์เน็ต ระบุว่า “บริษัทแกล้งมาทำงาน จำกัด เขตฝางซาน ปักกิ่ง” ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น Wifi ความเร็วสูง เครื่องดื่มชา-กาแฟไม่อั้น บรรยากาศสำนักงานเสมือนจริง มีอาหารกล่องสำหรับมื้อกลางวัน อีกทั้งยังมีบริการถ่ายรูปเช็คอินที่ทำงานฟรี และแม้กระทั่งบริการ หัวหน้ามาตรวจงาน พร้อมออกหนังสือรับรองการทำงานที่ระบุในเรซูเม่ได้ บริการของบริษัทแกล้งมาทำงาน จำกัด (ปักกิ่ง) มีการเก็บค่าใช้จ่ายวันละ 50 หยวน โดยกลุ่มเป้าหมายคือ คนที่ว่างงานอยู่บ้านและกลัวญาติหรือเพื่อนจับได้ คนที่เป็นฟรีแลนซ์แต่ทำงานที่บ้านไม่มีประสิทธิภาพ หรือคนที่กำลังเตรียมสอบ-เริ่มธุรกิจแต่หาพื้นที่เงียบสงบไม่ได้

บริษัทหนึ่งในเมืองหางโจวใช้พื้นที่ว่างในสำนักงานบริษัท ขึ้นป้ายเป็น “บริษัทแกล้งมาทำงาน” เพื่อดึงดูดให้คนสนใจ ซึ่งจริงๆคือ co-working space (ภาพจากสื่อจีน)
หลังจากโพสต์นี้เผยแพร่ออกไป ก็ได้รับการแชร์ แสดงความคิดเห็น และกดไลก์มากกว่า 4,000 ครั้ง บางคนแซวว่า “นี่สินะ เสียเงินเพื่อไปทำงาน” เพื่อการโปรโมทเพิ่มเติม บริษัทฯดังกล่าวยังได้สร้างกลุ่มแชทชื่อ “กลุ่มพนักงานบริษัทแกล้งมาทำงานปักกิ่ง” ซึ่งเมื่อเริ่มตั้งก็มีสมาชิกกว่า 240 คน บางคนตั้งชื่อว่า “ผู้อำนวยการบริษัท” บางคนตั้งว่า “ผู้จัดการใหญ่เขตต้าซิง” “ประธานภูมิภาคฮวาเป่ย” หรือ “CEO เขตไห่เตียน” เป็นต้น โดยตำแหน่งทั้งหมดนี้ถูกตั้งขึ้นแบบสุ่มตามที่แอดมินกลุ่มกำหนดให้ สร้างความตลกโปกฮาให้กับคนที่เข้าไปในกลุ่มอยู่ไม่น้อย

ปัจจุบัน “บริษัทแกล้งมาทำงาน” เริ่มมีเปิดอยู่มากขึ้นในเมืองใหญ่ ในปักกิ่งมีสำนักงานกฎหมายนำพื้นที่ว่างของตนเองมาเปิดเป็นพื้นที่ให้คนเข้ามาแชร์พื้นที่นั่งทำงาน โดยในการโปรโมทก็ใช้คำยอดฮิตว่าจัดตั้ง “บริษัทแกล้งมาทำงาน” เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามา

นายเสี่ยวฝู่ ซึ่งเป็นบรรณาธิการนิตยสารรายเดือน เขามีตารางการทำงานที่ยืดหยุ่น ในช่วงทำงานเขามักเลือกนั่งร้านกาแฟหรือห้องอ่านหนังสือ เพราะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่บ้าน แต่หลังจากเห็นข้อมูลเกี่ยวกับ “บริษัทแกล้งมาทำงาน” ทางออนไลน์ เขาจึงลองไปใช้บริการดู และรู้สึกว่านี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกว่ามาก “อยู่บ้านที่มีแต่เรื่องรบกวน ร้านกาแฟที่เสียงดังเกินไป ส่วนห้องอ่านหนังสือก็เงียบจนไม่กล้าโทรศัพท์” เขาเสริมว่า ในฐานะฟรีแลนซ์เขาไม่จำเป็นต้องตอกบัตร แต่ต้องการพื้นที่ทำงานที่สะดวกสบายและเอื้อต่อการทำงานจริงๆ ที่ที่เขาไปใช้บริการประจำมีอุปกรณ์สำนักงานพื้นฐาน ที่สำคัญคือมีบรรยากาศสงบและเป็นระเบียบ “เสมือนการทำงานในออฟฟิศ” รอบตัวมีทั้งคนทำงานบริการลูกค้าอีคอมเมิร์ซ นักทำคอนเทนต์ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ทุกคนต่างตั้งใจทำงานจริง “เท่าที่เขาดูไม่มีใครที่กำลังแกล้งทำงาน เพียงแค่สถานที่ทำงานของพวกเขาไม่ได้อยู่ในองค์กรแบบดั้งเดิมเท่านั้นเอง”

ในมุมมองของนายเสี่ยวฝู่ “แกล้งทำงาน” ไม่ได้หมายถึง “ไม่ทำงาน” แต่เป็นการตีความใหม่ เป็นการจำลองบรรยากาศออฟฟิศเพื่อสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมการทำงานให้กับแรงงานอิสระและฟรีแลนซ์

บริษัทแกล้งมาทำงานกลายเป็นแหล่งทรัพยากรร่วมของธุรกิจขนาดเล็ก เช่น บริษัทแห่งหนึ่งในปักกิ่งทำธุรกิจสื่อออนไลน์และไลฟ์สด นอกจากจะเปิดให้เช่าโต๊ะทำงานที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ยังจัดเตรียมห้องสตูดิโอไลฟ์สด ห้องเก็บอุปกรณ์และเครื่องแต่งกาย รวมถึงห้องประชุม เพื่อรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจด้านไลฟ์คอมเมิร์ซโดยเฉพาะไว้ให้ด้วย

นาง ลี่นา พนักงานของบริษัทธุรกิจสื่อออนไลน์และไลฟ์สดในปักกิ่ง บอกว่า บริษัทได้รับแรงบันดาลใจจากคำฮิตบนอินเทอร์เน็ต จึงใช้ชื่อ “บริษัทแกล้งมาทำงาน” ในการโปรโมท จุดประสงค์หลักคือเพื่อใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์ และเชื่อมต่อกับทรัพยากรทางธุรกิจที่อาจสร้างความร่วมมือในอนาคต

“ความลำบากของทีมสตาร์ทอัพทั่วไปคือการเช่าสำนักงานที่มักต้องจ่ายค่าเช่าระยะยาว ซึ่งเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น ในฐานะบริษัทสื่อออนไลน์ เราจึงให้บริการเช่าที่ยืดหยุ่นแบบรายวันหรือรายสัปดาห์ เพื่อเพิ่มรายได้ของบริษัท ที่อาจจะมีสตาร์ทอัพที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กันได้” หลังจากใช้ชื่อ “บริษัทแกล้งมาทำงาน” ทำการตลาด ก็มีคนส่งข้อความมาสอบถามทุกวัน และมีผู้ทำงานสายสื่อออนไลน์บางส่วนเข้ามาเช่าพื้นที่แล้วด้วย รูปแบบการแชร์ทรัพยากรแบบนี้ ก็สามารถจับมือกับผู้เช่าที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซร่วมกันได้ด้วย ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน “ถือเป็นอีกวิธีในการรวมกลุ่มกันเพื่อเอาตัวรอดของธุรกิจขนาดเล็ก” ความต้องการสถานที่ทำงานในยุคปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ช่างภาพที่ต้องออกไปถ่ายงานข้างนอกบ่อยอาจไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทำงานประจำ แต่ก็ยังต้องการพื้นที่ชั่วคราวเพื่อพบลูกค้า หรือคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เพียงแค่ต้องการเวลาวันละไม่กี่ชั่วโมงเพื่อโฟกัสกับงานพิเศษที่รับมา

ภายใน “บริษัทแกล้งทำงาน”แห่งหนึ่ง มีอุปกรณ์หการทำงานอย่างครบครัน
ในชานเมืองปักกิ่งก็มีผู้ประกอบการหัวใส ที่มีพื้นที่ฟาร์มปลูกผักผลไม้ของตัวเอง ก็เนรมิตพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็น co-working space และใช้คำว่า “บริษัทแกล้งมาทำงาน” เพื่อทำการโปรโมท ปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างสูง หลายคนหนีบรรยากาศความเป็นเมืองไปนั่งทำงานในบรรยากาศออฟฟิศใกล้ชิดธรรมชาติ ลูกค้าที่ได้ไปนั่งทำงานที่นั่นบอกว่า บรรยากาศสงบ เปิดประตูมาก็เจอทุ่งนา ได้ชมวิวสีเขียวๆ ยังมีที่นั่งอ่านหนังสือในสวนและก่อนกลับก็สามารถเด็ดมะเขือเทศกลับไปกินได้ด้วย

อาเทา ลูกค้าที่เข้าไปนั่งทำงานในฟาร์มชานเมืองปักกิ่งบอกว่า ตอนแรกเขาคิดว่า “บริษัทแกล้งมาทำงาน” เป็นพื้นที่สำหรับคนว่างงานที่ไม่อยากบอกความจริงกับครอบครัว แต่พอได้มาลองจริง เขาพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่กลับเป็นฟรีแลนซ์ ที่อยากหาสถานที่สงบๆ ทำงาน รวมถึงบางคนที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนงานอยู่ เขาบอกว่า “บางครั้ง มนุษย์ก็ต้องการพื้นที่กว้างๆ เพื่อสงบจิตใจ”
เจ้าของฟาร์มชานเมืองปักกิ่งมองว่า การเปิด “บริษัทแกล้งมาทำงาน” ในฟาร์ม เป็นไอเดียที่ดี เขามีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าแค่ทำสวน ปลูกผักขาย เขามีรายได้เพิ่มขึ้นจากพื้นที่ให้คนเช่านั่งทำงาน ยังมีรายได้เสริมจากร้านเครื่องดื่มเล็กๆ ที่เปิดบริการเพิ่มให้ลูกค้าด้วย ฟาร์มของเขาไม่มีโต๊ะทำงานเป็นแถวๆ แบบออฟฟิศทั่วไป แต่จัดเป็นโซฟา โต๊ะชา เคาน์เตอร์บาร์ หากใครอยากทำงานกลางแจ้ง ก็สามารถยกโต๊ะออกไปนั่งในสวน สูดกลิ่นดินธรรมชาติ พร้อมกับทำงานไปด้วยได้ คนที่มาที่นี่มีหลายรูปแบบ ทั้งฟรีแลนซ์ ทีมสตาร์ทอัพ ที่นี่สามารถใช้ทำงาน เรียนหนังสือ ประชุมเจรจา หรือแม้กระทั่งลงมือทำเกษตร นั่งอาบแดด ดื่มชา พูดคุยกับเขาเพื่อคิดวางแผนอนาคตได้

“บริษัทแกล้งมาทำงาน” คำนี้จึงเป็นหนึ่งของกลยุทธ์ในทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ co-working space นั่นเอง บริษัทแกล้งทำงานอาจกลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือสำหรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ที่มาพบกันและแชร์ข้อมูลไอเดียธุรกิจใหม่ๆ ไม่แน่ว่าไทยอาจจะมีบริษัทแกล้งมาทำงานเกิดขึ้นแล้วและอาจจะได้รับความนิยมอย่างมากในอนาคตเป็นได้ เนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คนเมืองเปลี่ยนไป


กำลังโหลดความคิดเห็น