โอกาสที่ชิป AI รุ่น H20 ของอินวิเดีย ( Nvidia) บริษัทสัญชาติอเมริกันจะกลับไปจำหน่ายในตลาดจีนยังดูอึมครึมจนถึงขณะนี้
ชิป H20 เป็นหน่วยประมวลผลกราฟิก ซึ่งผลิตสำหรับจีนโดยเฉพาะ โดยมีการปรับปรุง จนสามารถผ่านด่านมาตรการจำกัดการส่งออกของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ หลังจากเคยถูกห้ามการส่งออกไปแดนมังกรเมื่อเดือนเมษายน ภายใต้นโยบายสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงชิปขั้นสูงของสหรัฐฯ
นาย เจนเซ่น หวง ซีอีโอของอินวิเดียพยายามล็อบบี้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กระทั่งได้รับการอนุมัติการส่งออกในที่สุด แต่จีน ซึ่งเคยต้องการใช้ชิปรุ่นนี้อย่างมาก กลับปรากฏว่า รัฐบาลปักกิ่งได้แจ้งให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และผู้พัฒนา AI ในประเทศเช่น ไบต์แดนซ์ อาลีบาบา และเทนเซ็นต์ระงับการซื้อชิปดังกล่าวทั้งหมด จนกว่าการตรวจสอบด้านความปลอดภัยด้านความมั่นคงของชาติเสร็จสิ้น
ล่าสุด The Information สื่อด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรายงานโดยอ้างบุคคลวงในเมื่อวันศุกร์ ( 22 ส.ค.) ว่า อินวิเดียได้ขอให้ซัปพลายเออร์ผู้จัดหาชิ้นส่วนประกอบสำหรับชิป H20 คือบริษัทแอมคอร์ เทคโนโลยี (Amkor Technology) ในรัฐแอริโซนา ซึ่งรับผิดชอบด้านกระบวนการบรรจุภัณฑ์ชิป และซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ ซึ่งจัดหาหน่วยความจำ ระงับการผลิตที่เกี่ยวข้องกับชิปรุ่นนี้ชั่วคราว โดยคำสั่งของอินวิเดียมีขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนมีการแจ้งกับบริษัทเทคโนโลยีในประเทศได้ไม่กี่สัปดาห์
ด้านรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า อินวิเดียได้ขอให้บริษัทฟ็อกซ์คอนน์ระงับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับชิป H20 ไว้ก่อน
โฆษกของอินวิเดียตอบคำถามของสำนักข่าว CNBC ในเรื่องนี้แต่เพียงว่า “เราบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของเราเป็นปกติอยูเสมอเพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาด”
เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกและส.ส.มะกันกลุ่มหนึ่งได้เสนอร่างกฎหมายความปลอดภัยของชิป ( Chip Security Act ) ซึ่งกำหนดให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น อินวิเดีย ต้องรวมกลไกด้านความปลอดภัยและการยืนยันตำแหน่งไว้ในชิป AI ซึ่งเป็นชิปขั้นสูงของตน
ต่อมาเดือนกรกฎาคม องค์การบริหารไซเบอร์สเปซแห่งประเทศจีนได้เรียกอินวิเดียมาชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับชิป H20
รัฐบาลปักกิ่งวิตกว่ามันอาจฝังเทคโนโลยีการติดตาม หรือ "ประตูหลัง" ( backdoors ) ที่ทำให้สามารถควบคุมจากระยะไกลได้
เมื่อวันศุกร์ ( 22 ส.ค. ) นาย เจนเซ่น หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของอินวิเดีย ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ไต้หวัน ยอมรับว่า จีนมีการสอบถามเรื่องแบ็กดอร์ ซึ่งเป็นวิธีการหลบเลี่ยงระบบการรักษาความปลอดภัยปกติ และบริษัทได้บอกชัดเจนว่า ไม่มี
นายหวงกล่าวว่า อินวิเดีย “ประหลาดใจ” กับคำถามของฝ่ายจีน และพูดเป็นเชิงตัดพ้อด้วยว่า เป็นรัฐบาลจีนเองที่ได้ร้องขอและเร่งเร้าให้อินวิเดียดำเนินการเพื่อให้ได้ใบอนุญาตสำหรับ H20 นี้มา
เนื้อหาในแถลงการณ์ของอินวิเดียเมื่อวันศุกร์ยังระบุว่า ทั้งรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ใช้ชิปของแต่ละฝ่ายอยู่แล้ว อีกทั้งยังตระหนักดีว่า H20 ไม่ใช่ชิปด้านการทหารหรือโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ดังนั้น การอนุญาตให้ใช้ชิปของสหรัฐฯ เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ย่อมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน
สินค้าค้างในสต็อกอินวิเดียเสื่อมมูลค่าเป็นเงินจำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม เมื่อถูกรัฐบาลสหรัฐฯห้ามการส่งออกชิป H20 ไปยังจีน
การถูกจีนตรวจสอบยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า อินวิเดียหืดขึ้นคอในท่ามกลางสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
หากจีนสั่งห้ามชิป H20 ทั้งหมด ยอดขายประจำปีกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ของอินวิเดียในจีนจะตกอยู่ในความเสี่ยง ชิงหยวน หลิน นักวิเคราะห์อาวุโสด้านเซมิคอนดักเตอร์จีนของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเบิร์นสไตน์ ( Bernstein) ระบุ
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมชิปมองว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนครั้งนี้น่าจะเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพึ่งพาตนเองด้านชิป และการต่อต้านนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการให้ฮาร์ดแวร์ AI ของอเมริกาครองตลาดในจีนต่อไป
ข้อมูล : CNBC