xs
xsm
sm
md
lg

สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน : “ถั่วเหลือง” หมัดกำปั้นพญามังกรไล่ต้อนเกษตรกรเมกาจนมุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เรือขนส่งถั่วเหลืองจอดเทียบท่าที่เมืองโจวซานมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีนเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568  - ภาพ: VCG
เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐอเมริกาเป็นกลุ่มได้รับผลกระทบหนักที่สุดกลุ่มหนึ่งจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
 
ชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสอง ตกลงพักรบสงครามขึ้นภาษีศุลกากรฟาดฟันกันต่อไปอีก 90 วันจนถึงเดือนพฤศจิกายน ด้วยเหตุนี้จึงยังไม่ทราบว่า แต่ละฝ่ายจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราเท่าใด


แต่เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองแดนลุงแซมอาจไม่มีชีวิตรอดจนถึงวันนั้น

สมาคมถั่วเหลืองแห่งสหรัฐอเมริกา (ASA)ได้ยื่นจดหมายถึงรัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.) เร่งเร้าให้รัฐบาลบรรลุข้อตกลงกับจีนเพื่อเปิดตลาดแดนมังกรซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งกับถั่วเหลืองของสหรัฐฯ อีกครั้ง
 
“ เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองของสหรัฐฯกำลังยืนอยู่บนหน้าผาอันตรายทางการค้าและการเงิน” คาเลบ แร็กแลนด์ ประธานASA และเป็นเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองจากรัฐเคนตั๊กกี้ร่ายยาวปัญหาความเดือดร้อนในจดหมาย ตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ของสมาคม
 
“เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองเผชิญภาวะตึงเครียดทางการเงินอย่างหนักหน่วงที่สุด ราคาผลผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เกษตรกรของเราก็ต้องจ่ายค่าปัจจัยการผลิตและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ไม่อาจอยู่รอดได้ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อกับลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเรา”

“ จีนไม่ได้ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เลยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ในขณะที่เรากำลังเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวอีกไม่นานและยิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเราไม่ได้ข้อตกลงเรื่องถั่วเหลืองกับจีน ผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ก็จะยิ่งเลวร้าย ” แร็กแลนด์ระบุ


ที่ผ่านมา จีนนำเข้าถั่วเหลืองมากกว่าร้อยละ 60 ของปริมาณถั่วเหลืองทั้งหมดในโลกและครั้งหนึ่งสหรัฐฯ เคยเป็นแหล่งนำเข้ารายใหญ่ที่สุดของจีน แต่ปัจจุบัน ภาษีตอบโต้ระหว่างชาติทั้งสอง ทำให้ถั่วเหลืองสหรัฐฯ ที่มาขายในจีนมีราคาแพงกว่าถั่วเหลืองจากอเมริกาใต้ถึงร้อยละ 20 นอกจากนั้น จีนยังหันไปนำเข้าจากบราซิลแทน โดยบราซิลได้ขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการ ตามข้อมูลของ ASA


ในเอกสารสรุปผลที่จะเกิดขึ้นตามมาทางการเงินจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในระยะยาวบนแดนมังกร ซึ่ง ASA เผยแพร่นั้น ระบุว่า จีนเป็นผู้ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ รายใหญ่สุด ด้วยส่วนต่างที่มากมายจนน่าตกใจ โดยในปีงบประมาณ 2566/2567 สหรัฐฯ ส่งออกถั่วเหลืองเกือบ 25 ล้านเมตริกตันไปยังจีน ขณะที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู ) เพียง 4.9 ล้านเมตริกตันเท่านั้น ผู้ซื้อถั่วเหลืองรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯอย่างอียูแทบจะซื้อถั่วเหลืองได้ไม่ถึงหนึ่งในห้าของปริมาณที่จีนซื้อ


“ ทุก ๆ วันที่ปราศจากข้อตกลง ยิ่งกัดกร่อนส่วนแบ่งตลาดของเกษตรกรสหรัฐฯ ในจีนมากขึ้น”
“เราขอเรียกร้องอย่างแข็งขันให้รัฐบาลบรรลุข้อตกลงเปิดตลาดที่สำคัญยิ่งสำหรับถั่วเหลืองสหรัฐฯ แห่งนี้อีกครั้ง” แร็กแลนด์กล่าวสำทับในจดหมาย

ข้อมูล : โกลบอลไทมส์



กำลังโหลดความคิดเห็น