xs
xsm
sm
md
lg

เยือน “เหยียนอัน” ตอนที่ 3 ฐานปฏิวัติเจ่าหยวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รูปปั้นสี่ผู้นำพรรคฯ เหรินปี้สือ, โจวเอินไหล เหมาเจ๋อตง หลิวเส้าฉี และจูเต๋อ ที่สวนอนุสรณ์สถานเขตการปฏิวัติเจ่าหยวน ในเมืองเหยียนอัน มณฑลส่านซี
อีกสถานหนึ่งที่คณะสื่อเอเชียและแอฟริกาได้ไปเยี่ยมเยือนคือ ฐานการต่อสู้ปฏิวัติเจ่าหยวน (枣园革命旧址/Zaoyuan Revolution Site) ในหมู่บ้านเจ่าหยวน ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเหยียนอัน ประมาณ 8 กิโลเมตร ปัจจุบันฐานการต่อสู้ปฏิวัติเจ่าหยวนถูกจัดเป็นสวนอนุสรณ์สถาน

บริเวณฐานการปฏิวัติเจ่าหยวน แต่เดิมเป็นที่ดินของตระกูลมั่งคั่ง ตอนที่พรรคฯมาถึงที่นี่ได้ยึดที่ดินบริเวณนี้และสร้างหมู่บ้าน แบบ “บ้านถ้ำดิน” (窑洞 /cave dwellings) ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมของคนในเขตที่ราบสูงดินเหลืองทางภาคเหนือจีน ภายในบ้านถ้ำดินนี้จะเย็นในช่วงฤดูร้อน และอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว

สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสวนอนุสรณ์สถานฐานการปฏิวัติเจ่าหยวน
โดยส่วนหนึ่งเป็นบ้านพักของกลุ่มผู้นำการปฏิวัติแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนจากช่วงปี 1943 ได้แก่ เหมาเจ๋อตง จูเต๋อ โจวเอินไหล หลิวเส้าฉี เหรินปี้สือ จางเหวินเทียน เผิงเต๋อหวย ต่อมาในปี 1944 พรรคฯได้ย้ายสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคฯมาอยู่ที่เจ่าหยวน และทำงานที่นี่จนกระทั่งถอนกำลังออกจากฐานที่มั่นภาคเหนือของส่านซีในเดือนมีนาคม 1947

ในการต่อสู้ปฏิวัติช่วงนี้ต้องต่อสู้อย่างทรหดจากทั้งการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นและการปิดล้อมของกองกำลังรัฐบาลพรรคก๊กมินตั่ง และต้องเผชิญสถานการณ์เศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุด

ระหว่างนี้ผู้นำพรรคฯได้ดำเนินการเคลื่อนไหวที่สำคัญๆ ได้แก่ ขบวนการแก้ไขความคิดให้ถูกต้อง ( 整风运动 /Rectification Movement) และขบวนการผลิตขนานใหญ่ในเขตปลดแอกต่างๆ (大生产运动 /Massive production Campaign) การเตรียมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯครั้งที่ 7 การเคลื่อนไหวในช่วงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์สงครามปลดแอกทั่วประเทศ

โต๊ะประชุมฯในสำนักเลขาธิการพรรคฯ  ผนังด้านหนึ่ง ติดภาพถ่ายบุคคลสี่ท่าน ได้แก่ คาร์ล มาร์กซ์,  เฟรเดอริค เองเกลส์, เลนิน, และสตาลิน  และภาพที่ผนังด้านข้าง ติดลายมือเขียนอักษรพู่กันจีนของเหมาเจ๋อตง “รับใช้ประชาชน”
คณะสื่อฯ ได้ชมสถานที่ประวัติศาสตร์เมื่อ 80 กว่าปีก่อน ที่กลุ่มผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้นั่งประชุมฯ วางแผนปฏิบัติการต่อสู้ ตลอดจนการฝ่าฟันชีวิตระหว่างการต่อสู้ปฏิวัติจนบรรลุเป้าหมาย ภายในอาคารสำนักงานเลขาธิการพรรคฯ ได้จัดวาง โต๊ะประชุมตัวยาว เก้าอี้เรียงราย ที่ผนังด้านหนึ่งติดภาพถ่ายกลุ่มผู้นำลัทธิคอมมิวนิสต์ มาร์กซ์ เองเกลส์ เลนิน สตาลิน ภาพลายมือเขียนอักษรพู่กันจีนของเหมาเจ๋อตงที่เขียนสโลแกน “รับใช้ประชาชน” (为人民服务)

จากนั้นคณะสื่อก็ได้มาเยี่ยมชมบ้านถ้ำที่กลุ่มผู้นำการปฏิวัติเคยพำนัก ภายในบ้านมีเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะทำงาน รูปภาพประวัติศาสตร์ ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน สิ่งเหล่านี้เหมือนมีมนต์ขลังให้หวนนึกถึงการต่อสู้ของกลุ่มผู้นำการปฏิวัติที่ทำให้ประเทศจีนมีวันนี้

บ้านถ้ำดิน ที่พักของเหมาเจ๋อตง ที่ฐานปฏิวัติเจ่าหยวน
สำหรับจิตวิญญาณการต่อสู้ชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายการปฏิวัติของกลุ่มผู้นำยุคการปฏิวัติจีนดูน่าจะยากสำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะจินตนาการถึง ผู้เขียนขอแบ่งปันเรื่องเล่าขานของผู้นำยุคปฏิวัติจีนบางท่านเท่าที่ได้ฟังและอ่านผ่านตาในชั่วเวลาอันจำกัด

ขณะเยี่ยมชมบ้านพักของโจวเอินไหล ในห้องนอนจะมีเครื่องปั่นด้ายที่ต่อมาได้เรียนรู้ว่า โจวเอินไหล และเหรินปี้สือ มีฉายาว่า “วีรบุรุษนักปั่นด้าย”

บ้านพักของโจวเอินไหล ที่ฐานปฏิวัติเจ่าหยวน
ในช่วงที่กลุ่มผู้นำยึดเจ่าหยวนเป็นฐานปฏิบัติการ เหมาได้ดำเนินแคมเปญการผลิตขนานใหญ่เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอาหารและข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน หนึ่งในงานใหญ่ที่ต้องทำกันคือ การปั่นด้าย ทุกคนทั้งผู้ชาย ผู้หญิง หนุ่มสาว ผู้สูงอายุ ล้วนมีเครื่องปั่นด้าย ทุกแห่งหนทั้งในโรงอาหาร หอประชุมใหญ่ กลายเป็นโรงงานปั่นด้าย

ในปี 1943 โจวเอินไหลและเหรินปี้สือ
ได้จัดตั้งกองทัพแรงงาน โจวเอินไหลและเหรินปี้สือก็เข้าร่วมการปั่นด้ายหลังเลิกงาน ตอนนั้นโจวเอินไหลมีแผลบาดเจ็บที่แขนขวา แม้สหายเหรินแสดงความเป็นห่วงถึงอาการบาดเจ็บที่แขนของท่าน โจวตอบว่า “แขนนี้เคยชินกับการงานแล้ว ความเจ็บปวดเดี๋ยวก็หาย การใช้แรงงานเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด”

ภาพเหรินปี้สือในบ้านพักที่ฐานปฏิวัติเจ่าหยวน เป็นผู้นำการปฏิวัติคนสำคัญ ถึงแก่กรรมในปี 1950 หลังสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้หนึ่งปี
หลังจากที่เรียนรู้การปั่นด้ายไม่นาน วันหนึ่งทุกคนได้มามุงดูผลงานปั่นด้ายของโจว และยกย่องว่าเป็น”ด้ายคุณภาพเกรดหนึ่ง” แต่โจวกล่าวถ่อมตนว่า “พวกคุณดูดีๆ แค่ด้ายเกรดสองเท่านั้น” โจวและเหรินยังได้พัฒนาเทคนิกการปั่นด้ายเพื่อปรับปรุงผลผลิต ด้วยเหตุนี้เองประชาชนในท้องถิ่นยกย่องผู้นำทั้งสองเป็น “วีรบุรุษปั่นด้าย”

สำหรับเหรินปี้สือ ถูกยกย่องเป็นยอดแบบอย่างของผู้ที่อุทิศตัวให้กับการต่อสู้ปฏิวัติอย่างสุดจิตสุดใจ เป็นคนเคร่งครัดมาก ต่อต้านการใช้อภิสิทธิ์อย่างเด็ดขาด ใช้ชีวิตเรียบง่าย ซื่อสัตย์และประหยัดมาก ในช่วงสงครามความเป็นอยู่ของเขาไม่ต่างจากทหารทั่วไป อาหารที่เขากินประจำ มีพืชผัก หนังวัว รำข้าว เหรินมีปัญหาสุขภาพมากในช่วงที่อยู่ในเหยียนอัน แต่เขาปฏิเสธการปฏิบัติและการดูแลพิเศษจากพรรคฯและไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย เหรินปี้สือ เสียชีวิตในวัยเพียง 46 ปี

บ้านพักของจูเต๋อ ที่ฐานปฏิวัติเจ่าหยวน
อีกท่านหนึ่ง ที่อุทิศตัวให้การปฏิวัติอย่างน่าทึ่งคือ จูเต๋อ ระหว่างสงครามต่อต้านญี่ปุ่น จูเต๋อกลับมาที่ฐานที่มั่นแนวหน้าในเหยียนอัน เขาสวมชุดเสื้อผ้าเก่ามีรอยปะที่ไหล่ ข้อศอก และเข่า แม้หลายคนรบเร้าให้เขาเปลี่ยนชุดให้ให้สมกับตำแหน่งเสนาธิการใหญ่กองทัพแต่เขาก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง ครั้งหนึ่งทหารลาดตระเวนแอบไปนำเครื่องแบบทหารชุดใหม่ที่คลังเสบียงข้าวของมาเปลี่ยนให้ แต่จูเต๋อสั่งให้นำกลับไปคืนที่คลังในทันที “ทุกคนที่นี่ ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากทั้งนั้น อย่าเอาเสื้อผ้าใหม่มาให้ผมอีก”


ทหารยามนำเครื่องแบบทหารชุดใหม่ไปคืน พร้อมกับนำเข็มและด้ายมาปะรอยขาด จูเต๋อนั่งมองลูกน้องปะรอยขาด กล่าวว่า “การซ่อมแซมเสื้อผ้านี่เป็นงานที่ละเอียดทีเดียวนะ ต้องค่อยๆตัดผ้าที่เปื่อยขาดออกมาก่อนแล้วเย็บผ้าชิ้นใหม่เข้าไปแทน ผ้าเปื่อยขาดที่ถูกตัดออกมาสามารถเก็บรวบรวมและนำไปเย็บเข้าด้วยกันทำเป็นพื้นรองเท้าได้ เราต้องประหยัดกันเพื่อสงครามปฏิวัติและสงครามต่อต้านญี่ปุ่น!”

พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตง ต่อสู้สงครามปฏิวัติจีนใหม่ โดยมีเหยียนอันเป็นฐานที่มั่น 13 ปี เป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งยวดในการเรียนรู้ประสบการณ์ บทเรียนต่างๆ เป็นเขตทดลองการปกครอง ซึ่งส่งอิทธิพลต่อแนวทางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเวลาต่อมา เหยียนอันจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และบ้านแห่งจิตวิญญาณของพรรคคอมมิวนิสต์ #


กำลังโหลดความคิดเห็น