ตามที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่าได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการโนเบลเสนอชื่อ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยยกย่องบทบาทของทรัมป์ในการช่วยยุติความตึงเครียดและผลักดันข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชากับไทยนั้น
ชาวเน็ตจีนได้แสดงความคิดเห็นต่อการกระทำดังกล่าวอย่างมากมาย โดยส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจต่อการกระทำดังกล่าว เช่น
1. วิจารณ์ว่ากัมพูชาทรยศต่อจีนและประจบสหรัฐฯ
หลายความเห็นมองว่า กัมพูชา “กินข้าวจีนแต่ทำลายหม้อจีน” เป็น “ลูกเนรคุณ” หลังได้รับความช่วยเหลือจากจีนมานานแต่กลับหันไปสนับสนุนสหรัฐฯ โดยใช้คำแรง เช่น "ก้มหัวเลีย" และ “ประจบประแจงอย่างไร้ศักดิ์ศรี"
2. ชี้ว่าเป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
มีคนอธิบายว่า การเสนอชื่อทรัมป์มีเหตุผลเชิงปฏิบัติ เพราะสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเสื้อผ้า และการได้ลดภาษีนำเข้าจาก 49% เหลือ 19% ถือเป็นผลประโยชน์ทางตรงที่ช่วยสร้างงานและรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศ
3. มองว่ากัมพูชากำลังเปลี่ยนทิศทางยุทธศาสตร์ไปทางตะวันตก
หลายความเห็นระบุว่า หลังเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี กัมพูชาก็เริ่มปรับนโยบายการทูตเพื่อใกล้ชิดสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านและจีนจับตาและไม่พอใจ
4. ตั้งข้อสงสัยในความจริงใจของครอบครัวผู้นำกัมพูชา
ชาวเน็ตจำนวนมากกล่าวหาว่า “ตระกูลฮุน” มีผลประโยชน์ซ่อนเร้นในสหรัฐฯ ทั้งทรัพย์สินและการศึกษา ทำให้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ และอาจ “ถูกควบคุม” ให้เดินตามแนวทางของวอชิงตัน
5. วิจารณ์ตัวบุคคลและพาดพิงประวัติศาสตร์การเมือง
บางคนย้อนอดีตว่า บิดาของผู้นำคนปัจจุบันเคยใช้วิธีการ “ขาย” กลุ่มเขมรแดงและพึ่งพาเวียดนามเพื่อขึ้นสู่อำนาจ และตอนนี้ลูกชายก็กำลังเดินตามรอยด้วยการพึ่งพาสหรัฐฯ
6. ไม่เห็นด้วยกับการให้ทรัมป์ได้โนเบลสันติภาพ
มีหลายความเห็นมองว่าทรัมป์เป็นผู้นำที่ “ชอบจุดชนวนสงคราม” ทั้งในหลายประเทศ และมองว่าการเสนอชื่อนี้เป็นการ “บิดเบือนความหมายของรางวัลสันติภาพ”
7. เสียงสนับสนุนมีน้อยและมักมองเชิงสมจริง
ความเห็นที่สนับสนุนบางส่วนบอกว่า นี่เป็น “กลยุทธ์เอาตัวรอดของประเทศเล็ก” ที่ต้องใช้การประจบเพื่อแลกกับความปลอดภัยและผลประโยชน์ในยามโลกเต็มไปด้วยการแข่งขันของมหาอำนาจ
โดยรวมแล้ว กระแสหลักในคอมเมนต์คือการวิจารณ์และไม่พอใจต่อการกระทำของกัมพูชา มองว่าเป็นการหักหลังจีนเพื่อแลกผลประโยชน์จากสหรัฐฯ และตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของการเสนอชื่อทรัมป์ชิงรางวัลสันติภาพ