เสียงกลองเอวแห่งอันไซดังกึกก้องจากการแสดงกลองเอวต้อนรับคณะสื่อเอเชียและแอฟริกาที่มาเยือน ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมแห่งอันไซเพื่อเรียนรู้รากเหง้าศิลปะแห่งที่ราบสูงดินเหลือง สำหรับที่ราบสูงดินเหลืองที่เกิดจากการทับถมของฝุ่นดินที่ลมพัดพามาเป็นเวลานานและเป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำเหลืองหรือหวงโหนี้เป็นลักษณะภูมิประเทศของแถบภาคเหนือจีน และเมืองเหยียนอัน ถือเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของที่ราบสูงดินเหลือง
อันไซ (安塞/Ansai) เป็นอำเภอหนึ่งในเหยียนอัน เป็นสถานที่ปฏิบัติการที่สำคัญแห่งหนึ่งระหว่างการต่อสู้ปฏิวัติจีน ผู้นำการปฏิวัติของพรรคฯได้เข้ามายังอันไซหลายครั้งหลังจากที่มาถึงเขตภาคเหนือจีนในช่วงปี 1935 อันไซเป็นทั้งสถานที่พำนัก วางพื้นฐานแนวคิดการปฏิวัติ ปฏิบัติการต่างๆจนถึงปี 1947 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลพรรคคก๊กมินตั่งรุกโจมตีอย่างหนักหน่วงด้วยกองกำลังที่เหนือกว่าจากความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาจนเข้ายึดเมืองเหยียนอันได้
ระหว่างที่เหมาเจ๋อตงได้วางแผนถอนกำลังออกจากเหยียนอัน ได้มาบัญชาการสงครามปลดแอกประชาชนที่อันไซเป็นเวลานาน 58 วัน ด้วยความเชื่อมั่นว่าแม้รัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งยึดได้เมืองเหยียนอันไป หากการต่อสู้ปฏิวัติจีนของพรรคฯจะต้องบรรลุถึงชัยชนะและปกครองแผ่นดินจีน
ชีวิตการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มิได้มีแต่การเผชิญหน้าสู้รบด้านเดียว ยังได้หลอมรวมเข้ากับประชาชนในท้องถิ่นและศิลปะวัฒนธรรมพื้นถิ่นอย่างกลมกลืน ทำให้ชีวิตการต่อสู้ที่ต้องฝ่าฟันความยากลำบากนานา มีสีสันของศิลปะวัฒนธรรมที่จรรโลงจิตใจ
ในการมาเยือนอันไซ คณะสื่อได้เรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่มีชื่อเสียงในระดับชาติและระดับโลก ซึ่งผู้เขียนขอยกตัวอย่างแบบพอสังเขป
ขณะที่เดินชมภาพในห้องนิทรรศการศิลปะวัฒนธรรมแห่งอันไซ และฟังการบรรยายภาพนิทรรศการ จากโซนการแสดงศิลปะกระดาษตัดแบบจีน การตัดกระดาษของอันไซ ถือเป็นผลงานศิลปะที่ประณีตงดงามที่สุดในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีน
ภาพวาดพื้นถิ่น ถูกยกเป็นอัญมณีของที่ราบสูง ชาวอันไซรุ่มรวยศิลปะขนาดไหน ดูจากวิวัฒนาการของภาพวาด ซึ่งมีที่มาจากภาพวาดตกแต่งข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เตาให้ความร้อนในบ้านแบบเก่าของจีน หม้อ และตู้ ฯลฯ ศิลปะเหล่านี้เป็นที่นิยมมากในช่วงทศวรรษที่ 60 ของศตวรรษที่ 20 ต่อมาได้หลอมรวมกับธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและการพัฒนาสังคม ภาพวาดพื้นถิ่นของอันไซ ยังได้ซึมซับศิลปะกระดาษตัด การปักลวดลายบนผ้าและรูปแบบศิลปะอื่นๆ
นอกจากนี้ คณะสื่อฯยังได้ฟังเพลงพื้นถิ่น ที่ทรงพลังเสียงอย่างที่ไม่อาจบรรยายได้... นับเป็นศิลปะการขับร้องที่โดดเด่นของท้องถิ่น ผู้เขียนได้นำเสนอคลิปในเพจโซเชียลของ MGR CHINA
กลับมาที่เรื่องเกี่ยวกับกลองเอวแห่งอันไซที่ได้กล่าวถึงในตอนเปิดเรื่อง...กลองเอวแห่งอันไซถือเป็นจิตวิญญาณของประชาชาติจีน
กลองเอวแห่งอันไซเป็นศิลปะวัฒนธรรมการแสดงระบำพื้นบ้านของเกษตรกรที่เก่าแก่กว่า 2,000 ปี และเป็นผลผลิตจากการต่อสู้สงครามยุคโบราณ
เสียงกลองจากระบำกลองเอวอันไซนี้ ยังดังกึกก้องในวันประกาศชัยชนะของการต่อสู้ปฏิวัติและการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชน ณ จัตุรัสเทียนอันเหมินในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 อีกทั้งได้เป็นประจักษ์พยานคำประกาศของเหมาเจ๋อตง “นับจากนี้ไปประชาชนจีนได้ยืนขึ้นแล้ว” (中国人从此站立起来了)
คณะระบำกลองเอวอันไซยังได้เข้าร่วมการแสดงในพิธีเฉลิมฉลองวาระครบรอบปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือวันชาติจีนคือวันที่ 1 ตุลาคม ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในวาระครบรอบปีหลักหมายสำคัญๆ ได้แก่ ปีที่ 50 (1999) และปีที่ 60 (2009) นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมการแสดงในพิธีฉลองเหตุการณ์สำคัญของจีนคือ เกาะฮ่องกงกลับสู่การปกครองจีนในปี 1997
ปี 1986 ระบำกลองเอวอันไซ ได้เข้าร่วมการประกวดการแสดงระบำกลองพื้นบ้านจากทั่วประเทศครั้งที่หนึ่งและได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอันดับหนึ่ง
ระหว่างช่วงการปฏิรูปและเปิดประเทศจีน 40 กว่าปี ยุคที่ประเทศจีนมั่งคั่งขึ้น คณะระบำกลองอันไซ ได้เปิดการแสดงทั้งในประเทศและต่างประเทศนับเป็นร้อยๆครั้ง จนได้รับการยกย่องเป็น “ยอดกลองเอวแห่งโลกตะวันออก” และ “ราชากลองแห่งจีน”
ในปี 2006 ระบำกลองอันไซ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
กลองเอวแห่งอันไซ จึงเป็นจิตวิญญาณหนึ่งของประชาชาติจีนจากยุคที่จีนลุกขึ้นยืน (站起来) สู่ยุคมั่งคั่ง(福起来) ถึงยุคแข็งแกร่ง (强起来) ในปัจจุบัน…