วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานบริหารวัดเส้าหลินประกาศว่า พระซื่อ หย่งซิ่น เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ถูกสอบสวนจากหลายหน่วยงานในข้อหากระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินโครงการและทรัพย์สินของวัด และละเมิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง โดยมีความสัมพันธ์กับสตรีหลายคนและมีบุตรนอกสมรส ต่อมาในวันที่ 28 กรกฎาคม สมาคมพุทธศาสนาแห่งประเทศจีนได้ประกาศเพิกถอนใบสุทธิของเขา และวันที่ 29 กรกฎาคม วัดเส้าหลินประกาศแต่งตั้ง พระอิ่นเล่อ เป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่
แม้อยู่ในศูนย์กลางของมรสุมศรัทธา แต่วัดเส้าหลินกลับคึกคักไม่ต่างจากเดิม นักท่องเที่ยวต่อแถวเข้าสู่ประตูวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยวนี้ วัดเต็มไปด้วยกรุ๊ปทัวร์และนักเรียนจากกิจกรรมค่ายฝึกอบรม ขณะที่การแสดงกังฟูในโรงฝึกของวัดยังดึงดูดผู้ชมแน่นขนัด แม้กระทั่งไลฟ์สดการแสดงก็ยังคึกคัก ส่วนใหญ่ยังพูดถึงข่าวของอดีตเจ้าอาวาส
อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงในวัดก็เริ่มปรากฏให้เห็น ห้องพักเจ้าอาวาสที่เคยตั้งอยู่ด้านหลังหอคัมภีร์ ถูกล้อมรั้วเหล็กสูง ปิดไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้ เขตที่พักสงฆ์ติดป้ายห้ามนักท่องเที่ยวเข้าอย่างชัดเจน
ซื่อ หย่งซิ่น วัย 60 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินมานานกว่า 30 ปี เขาเป็นที่รู้จักทั้งในฐานะพระนักเผยแผ่ และนักบริหารที่กล้าเดินหน้าสู่ความทันสมัย เมื่อครั้งเริ่มต้นในปี 1981 วัดเส้าหลินยังเป็นเพียงวัดเงียบเหงา มีเพียงผืนดินเล็ก ๆ และพระชราไม่กี่รูป จนกระทั่งปี 1982 ที่ภาพยนตร์ “วัดเส้าหลิน” ทำให้ชื่อเสียงของวัดเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ เขาจึงเริ่มมองเห็นศักยภาพของ “เส้าหลิน” ในฐานะแบรนด์ทางวัฒนธรรม
ในปี 1998 ซื่อ หย่งซิ่นก่อตั้ง “บริษัทพัฒนาธุรกิจวัดเส้าหลิน” ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านหยวน และเริ่มเข้าสู่โลกธุรกิจอย่างเป็นทางการ กลายเป็นพระรูปแรกในจีนที่มีปริญญา MBA และต่อยอดวัดให้มีอาณาจักรธุรกิจหลากหลาย ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจสมุนไพรจีน สื่อสิ่งพิมพ์ ศิลปะการแสดง ไปจนถึงเปิดร้านใน Taobao และทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง Douyin (TikTok จีน)
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังจัดคณะพระนักแสดงกังฟูตระเวนแสดงทั่วโลก จนสร้างรายได้ระดับหลายล้านหยวน มีรายงานว่ารายได้จากการท่องเที่ยววัดเส้าหลินเคยสูงถึง 3 พันล้านบาทต่อปี และคิดเป็นหนึ่งในสามของรายได้ของเมืองเติงเฟิงที่ตั้งวัดเส้าหลิน
ความเติบโตของวัดเส้าหลินภายใต้การนำของซื่อ หย่งซิ่น แม้จะทำให้วัดเป็นที่รู้จักในระดับโลก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่อง “พุทธพาณิชย์” ตามมามากมาย ทั้งการตั้งราคาสูงของสินค้าในวัด ร้านเช่าร้านค้าในพื้นที่ และความเข้มข้นของธุรกิจ
ปี 2022 มีรายงานว่าบริษัทในเครือวัดเส้าหลินชนะประมูลที่ดินมูลค่า 4.52 พันล้านหยวนในเขตพัฒนาแห่งหนึ่งของเจิ้งโจว จนถูกสื่อจีนขนานนามว่า “วัดเส้าหลินบุกอสังหาริมทรัพย์” ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์เจ้าอาวาสรูปนี้ในฐานะ “พระนักธุรกิจ” มากกว่าผู้นำทางจิตวิญญาณ
แม้จะผ่านการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2558 เมื่อพระรูปหนึ่งออกมาแฉว่า ซื่อ หย่งซิ่นมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสตรี มีบุตร และถือครองทรัพย์สินเกินควร แม้ตอนนั้นรัฐบาลปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เหตุการณ์ล่าสุดที่เจ้าตัวถูกสอบสวนข้อหาทางอาญา กลับทำให้หลายคนย้อนคิดว่า “ข่าวลือเก่ากำลังกลายเป็นความจริง”
ปัจจุบันธุรกิจหลายแห่งในเครือเส้าหลินเริ่มปิดตัวลง เช่น ร้าน “เส้าหลินหวนซีตี้” บน Taobao ก็ไม่สามารถค้นหาได้อีก อีกหลายบริษัทที่เคยมีชื่อเขาร่วมถือหุ้นก็มีสถานะ “เลิกกิจการ” หรือ “ระงับกิจการ” ขณะที่จำนวนบริษัทที่เขาเป็นผู้แทนเหลือเพียงไม่กี่แห่ง และเริ่มมีการถอนตัวจากโครงการหลายรายการ
วัดเส้าหลินยังคงมีเสียงกังวานจากบทสวด กลิ่นธูปยังลอยอบอวล และนักท่องเทียวยังคงเดินเข้าออกไม่ขาดสาย แม้ผู้นำทางจิตวิญญาณจะล้มลงด้วยข้อกล่าวหาร้ายแรง แต่นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงเชื่อมั่นในมรดกทางวัฒนธรรม และเสน่ห์ของ “กังฟูเส้าหลิน” ที่หยั่งรากลึกในจิตใจผู้คน
พระอิ่นเล่อ เจ้าอาวาสรูปใหม่ ได้รับเลือกจากพระในวัดและเข้าสู่ตำแหน่งท่ามกลางความหวังว่า เส้าหลินจะสามารถฟื้นฟูภาพลักษณ์ของวัดให้กลับมาเป็น “แหล่งธรรมะ” อย่างแท้จริงอีกครั้ง
ที่มา: 联合早报、新京报、澎湃新闻、红星新闻、界面新闻