ครอบครัวแรคคูน 12 ตัวเข้ายึดลานบ้านของครอบครัวหนึ่งในเซี่ยงไฮ้เป็นที่อยู่อาศัย โดยเจ้าหน้าที่แนะนำให้ประชาชน “อดทน” เพราะแรคคูนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมายของจีน
เหตุเกิดที่บ้านของนายเว่ยในย่านจงซาน โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพแรคคูน 2 ตัวใหญ่และลูกอีก 10 ตัว แอบเล็ดลอดรั้วเข้ามาวิ่งเล่น ขับถ่าย และนอนพักในลานบ้านขนาดราว 40 ตารางเมตร ทั้งกลางวันและกลางคืน
นายเว่ยเล่าว่า ช่วงสองปีก่อนเคยเห็นแรคคูนเดินผ่านในละแวก แต่ไม่เคยรบกวนกัน กระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แรคคูน 2 ตัวเข้ามาออกลูก พร้อมชี้ว่าแรคคูนทิ้งมูลไว้ทั่วบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นและทำให้กังวลเรื่องสุขภาพของคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน
ภรรยาของนายเว่ยถึงขั้นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดทุกวัน แต่ก็ไร้ผลเพราะแรคคูนยังคงกลับมาเป็นประจำแม้ติดตั้งอุปกรณ์ไล่สัตว์แล้วก็ตาม
เมื่อสถานการณ์เริ่มลุกลาม นายเว่ยได้แจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงเทศบาลและหน่วยงานป่าไม้ ซึ่งต่างก็ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมติดป้ายเตือนประชาชนไม่ให้อาหารสัตว์ และพยายามค้นหาที่อยู่อาศัยของแรคคูนเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
แต่เมื่อไม่พบรังของแรคคูน เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่ายังไม่มีมาตรการใดรองรับ เนื่องจากแรคคูนจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองระดับสองของจีนตามกฎหมาย ไม่สามารถจับได้โดยไม่ได้รับอนุญาต และแนะนำให้ชาวบ้าน “รอให้แรคคูนโตแล้วมันจะย้ายออกไปเอง”
การยื่นขอ “ล่าหรือย้าย” แรคคูนจำเป็นต้องแสดงเอกสารจากโครงการวิจัย วิทยาศาสตร์ หรือภารกิจของรัฐ ซึ่งชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถจัดหาได้ ส่งผลให้การร้องเรียนของชาวบ้านแทบไม่มีทางออก
ข้อมูลจากสายด่วน 12345 ระบุว่า ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีประชาชนร้องเรียนกรณีแรคคูนเข้ามารบกวนในเขตที่อยู่อาศัยถึง 51 ครั้ง เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากเดือนพฤษภาคม บางกรณีแรคคูนถึงขั้นไล่กัดสัตว์เลี้ยงหรือข่มขวัญเด็กเล็ก
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยืนยันว่าจะยังไม่จับแรคคูนในช่วงฤดูให้นม แต่แนะนำให้ประชาชนติดรั้วเพิ่ม และปิดช่องระบายน้ำที่อาจเป็นช่องทางให้แรคคูนเล็ดลอดเข้ามา
ขณะนี้ครอบครัวนายเว่ยได้ติดรั้วตาข่ายเพิ่มเพื่อป้องกัน แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดแรคคูนจากการแอบเข้ามาได้ ทำให้ความเดือดร้อนยังไร้แนวทางแก้ไขที่ชัดเจน
ที่มา: 上观新闻, 劳动报