xs
xsm
sm
md
lg

“สีจิ้นผิงเป็นพรีเซนเตอร์” ! การเมืองเบื้องหลังการท่องเที่ยวจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online: ผู้นำจีนโปรโมท “จีนเที่ยวจีน” คนจีนแห่เที่ยวเมืองรอง-เมืองเล็กคึกคัก เชิญอดีตผู้นำไต้หวันร่วมเทศกาล หวังใช้วัฒนธรรมประเพณีหนุนแนวทาง “รวมชาติ”

การท่องเที่ยวไทยเผชิญเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ตั้งแต่ความกังวลเรื่องปลอดภัย, การถูกหลอกลวง-ลักพาตัวโดยแก๊งค์คอลเซนเตอร์, เหตุแผ่นดินไหว ที่ชาวต่างชาติต้องตกตะลึง ที่เห็นตึกทั้งตึกพังลงต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวจีน ในครึ่งปีมาเที่ยวเมืองไทยแค่ 2 ล้านคน เป็นสถิติที่น้อยที่สุดในรอบ 12 ปี

แต่สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาเมืองไทยน้อยลงยังมีเบื้องหลังมากกว่านั้น เพราะถ้าไปดูในประเทศจีนตอนนี้ คนจีนเที่ยวในประเทศจีนกันอย่างคึกคักมาก หรือจะพูดได้ว่า คนจีนเที่ยวเมืองจีน มากกว่าจะมาเที่ยวเมืองไทยแล้ว


"สีจิ้นผิง" เยือนเมืองเทียนสุ่ย มณฑลกันซู่ 

ทางการจีนสนับสนุนนโยบาย “จีนเที่ยวจีน” อย่างชัดเจน ทั้งให้สื่อมวลชนช่วยกันโปรโมท ตัวอย่างที่เมืองเทียนสุ่ย มณฑลกันซู่ มีอาหารยอดนิยมคือ “หมาล่าทั่ง” หรือ “ซุปหมาล่า” ที่โซเชียลมีเดียจนถึงสื่อหลักของจีนช่วยกันสร้างกระแสจนคนแห่ไปกินกันที่เมืองเทียนสุ่ย ทั้ง ๆ ที่ “หมาล่าทั่ง” ก็มีขายทั่วทุกที่ในเมืองจีน

ที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางมาตรวจราชการที่เมืองเทียนสุ่ย พร้อมไปชมถ้ำหิน “ม่ายจีซัน” แหล่งโบราณสถานมรดกโลก และไปเยี่ยมสวนแอปเปิลด้วย

ต่อมา ในสุนทรพจน์ปีใหม่ ปีนี้ ท่านสีจิ้นผิงก็ยังพูดถึง แอปเปิลของเมืองเทียนสุ่ยว่า “ทั้งใหญ่ทั้งหวาน” และบอกว่า ถ้ำหินม่ายจีซันเป็น “รอยยิ้มแห่งบูรพา

เมื่อระดับผู้นำประเทศอย่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงช่วยโปรโมทด้วยตัวเอง คนจีนก็ต้องแห่ไปเที่ยวกันมากมายอย่างแน่นอน นอกจากนี้ หน่วยราชการ โรงเรียน บริษัททัวร์ของจีนยังจัดโปรแกรมท่องเที่ยว, ทัศนศึกษา “ตามรอยท่านผู้นำ” ซึ่งรายได้จากท่องเที่ยวก็จะหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศจีน โดยเฉพาะในเมืองรอง-เมืองเล็กของจีน ได้รับอานิสงค์อย่างมาก


ใช้ประเพณีกล่อมไต้หวัน “รวมชาติ” 

เมืองเทียนสุ่ย ยังมีตำนานว่าเป็นบ้านเกิดของ “ฝูซี” เทพที่ชาวจีนนับถือกันว่า เป็นผู้ก่อกำเนิดมนุษยชาติและสร้างอารยธรรมจีน ทุก ๆ ปีจะมีพิธีสักการะฝูซีจัดอย่างใหญ่โต และทั่วทั้งเมืองก็จะเอาตำนานนี้มายึดโยงกับสถานที่ท่องเที่ยว, งานเทศกาล ไปจนถึงอาหาร และของที่ระลึกต่าง ๆ ก็จะเกี่ยวข้องกับเทพฝูซี

ถึงแม้ว่าแนวคิดสังคมนิยมจะไม่สนับสนุนเรื่องของความเชื่อและศาสนา แต่ว่ารัฐบาลจีนก็ฉลาดที่จะใช้ความเชื่อ ศาสนาที่มีร่วมกัน เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนชาติจีน เช่น เรื่องราวของเทพฝูซีเป็นตำนานที่ชาวจีนทั้งในแผ่นดินใหญ่, ชาวฮ่องกง, ไต้หวัน รวมถึงคนเชื้อสายจีนที่อยู่ทั่วทั้งโลกด้วย ต่างรู้เรื่องนี้เหมือนกันหมด เป็น "ประวัติศาสตร์ร่วม” ที่สามารถใช้เพื่อแสดงว่า ชาวจีนทั่วทั้งโลกล้วนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน มีบรรพชนร่วมกัน มีความเชื่อประเพณี และอารยธรรมเดียวกัน

พิธีสักการะเทพฝูซี ปีนี้ มีแขกคนสำคัญที่เข้าร่วมด้วย คือ นายหม่า อิงจิ่ว อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งนี่เป็นเรื่องใหญ่ เพราะการไปมาหาสู่ของนักการเมืองระดับสูงของไต้หวันและจีนแทบจะเกิดขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลไต้หวันปัจจุบันมีจุดยืนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อจีน


ถึงแม้ว่าการมาร่วมงานของอดีตผู้นำไต้หวันจะมีนัยยะทางการเมือง ที่ฝ่ายจีนใช้เรื่องความเชื่อและงานประเพณี เป็นช่องทางติดต่อกับไต้หวัน และสร้างแนวร่วมว่า “เป็นพี่น้องร่วมชาติ” แต่ก็ทำให้เมืองเทียนสุ่ย และสถานที่อื่น ๆ ที่อดีตผู้นำไต้หวันไปเยือนกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย

เห็นชัดเจนเลยว่ามีคนฮ่องกง ไต้หวัน มาเที่ยวที่มณฑลห่างไกลของจีนมากขึ้นอย่างชัดเจน เพราะว่ามีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงกัน แต่อีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะความรู้สึกร่วมใน “เรื่องราว” ที่ทางการจีนสร้างขึ้นมาด้วย

ประเทศจีนภาคภูมิใจว่า เป็นต้นแบบอารยธรรมของโลก ดังนั้นถ้าประเทศไทยเราผูกเรื่องที่เชื่อมโยงกับจีนได้ เช่น พุทธศาสนา, ศิลปวัฒนธรรมที่ไทย-จีนมีร่วมกัน ก็จะสร้างธีมการท่องเที่ยวใหม่ได้ และยังเป็นการท่องเที่ยวที่ได้ความรู้และมีคุณภาพอีกด้วย การเชื่อมโยงประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน และะทำให้นักท่องเที่ยวจีนสนใจมาเมืองไทยมากขึ้น และเป็นสิ่งที่พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า “ไทยจีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”.


กำลังโหลดความคิดเห็น