จีนประกาศแผนตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการระหว่างประเทศของหยวนดิจิทัล” (e-CNY International Operations Center) ในนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อผลักดันการใช้เงินหยวนในธุรกรรมระหว่างประเทศ และลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายระยะยาวเพื่อสร้าง “ระบบการเงินโลกแบบหลายขั้ว” ที่เปิดโอกาสให้หลายสกุลเงินมีบทบาทในแต่ละภูมิภาค
พาน กงเชิง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยแนวทางดังกล่าวระหว่างการประชุม ลู่จยาจุ่ย ฟอรัม (Lujiazui) Forum ที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ โดยระบุว่า จีนต้องการขยายบทบาทของหยวนดิจิทัล (e-CNY) ไปทั่วโลก เนื่องจากระบบการเงินแบบปัจจุบันที่ผูกกับเงินดอลลาร์เพียงสกุลเดียว ทำให้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงต่อความผันผวนและการเมืองระหว่างประเทศ
พานกล่าวว่า การมีระบบเงินระหว่างประเทศแบบหลายขั้วจะช่วยให้ประเทศต่างๆ ไม่ตกอยู่ภายใต้นโยบายของประเทศใดประเทศหนึ่ง และทำให้ระบบการเงินโลกมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
หยวนดิจิทัล เป็นเงินสกุลดิจิทัลที่พัฒนาโดยธนาคารกลางจีน โดยปัจจุบันใช้งานในหลายเมืองทั่วประเทศ และเริ่มมีบทบาทในธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศบางส่วน โดยเฉพาะกับรัสเซียและประเทศในเอเชียกลาง
ล่าสุด สื่อทางการจีนรายงานว่า ธนาคารต่างชาติ 6 แห่ง รวมถึง Standard Bank จากแอฟริกาใต้ และ First Abu Dhabi Bank จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ตกลงใช้ระบบ CIPS (Cross-Border Interbank Payment System) ของจีน ซึ่งใช้หยวนในการชำระเงินระหว่างประเทศ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันหยวนให้กลายเป็นสกุลเงินสำคัญระดับโลก
พานยังกล่าวว่า ระบบการโอนเงินข้ามประเทศแบบดั้งเดิม เช่น SWIFT มีข้อเสียหลายประการ เช่น ใช้เวลานาน เสียค่าธรรมเนียมสูง และเสี่ยงต่อการถูกแทรกแซงทางการเมือง ในขณะที่ระบบแบบใหม่ที่ใช้หยวนดิจิทัลจะลดข้อจำกัดเหล่านี้ และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรได้ดีขึ้น
แม้จะผลักดันหยวนในระดับโลก แต่จีนก็ย้ำว่าจะรักษาเสถียรภาพของค่าเงินไว้ให้เหมาะสม โดย จู เหอซิน ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (SAFE) ระบุว่าจีนมีเครื่องมือมากพอในการรับมือกับความผันผวนของตลาดเงิน
การตั้งศูนย์ปฏิบัติการหยวนดิจิทัลในเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าจีนต้องการยกระดับบทบาทของตนในเวทีการเงินโลก โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการขยายอิทธิพลของหยวน และลดการพึ่งพาระบบการเงินที่นำโดยตะวันตก
ที่มา: Reuters