น้ำลดฤดูแล้งทำ “เมืองพุทธใต้น้ำ” โผล่ เผยโฉมพระพุทธรูป–ครบองค์ หลังจมน้ำนานครึ่งศตวรรษ

ช่วงนี้ที่อ่างเก็บน้ำซูฟางป้า เมืองอันเยว่ มณฑลเสฉวน ระดับน้ำลดลงอย่างมาก ทำให้พระพุทธรูปและสิงห์หินโบราณจำนวนมากซึ่งจมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 50 ปี กลับมาให้เห็นอีกครั้ง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

พระพุทธรูปเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “วัดฝอจี้” ซึ่งเคยตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำ แต่หลังจากที่มีการกักเก็บน้ำในปี 2517 ก็ทำให้พระพุทธรูปและสิงห์หินจมหายไปใต้น้ำเกือบหมด เหลือให้เห็นแค่ช่วงน้ำลดในฤดูแล้งเท่านั้น บางปีที่แล้งจัด พระพุทธรูปและสิงห์หินจะโผล่ขึ้นมาทั้งองค์ โดยอยู่ให้ชมได้ประมาณ 2-3 เดือน

เถิง หย่งฝู ชาวบ้านวัย 76 ปีที่ทำหน้าที่ดูแลโบราณสถานนี้ เล่าว่า ตั้งแต่ปี 2563 มีถึง 3 ปีที่พระพุทธรูปและสิงห์หินโผล่ขึ้นมาแบบสมบูรณ์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่มาชมกันจำนวนมาก

ในปีนี้ก็เช่นกัน นักข่าวลงพื้นที่พบว่าพระพุทธรูปกว่า 20 องค์ รวมถึงสิงห์หินคู่หนึ่งที่หันหน้าเข้าหากัน กลับมาให้เห็นอีกครั้งอย่างชัดเจน ทั้งหมดแกะสลักอยู่บนหินก้อนใหญ่ริมอ่างเก็บน้ำ ใบหน้าของพระพุทธรูปแต่ละองค์ยังคงความงดงามและมีรายละเอียดที่ดูมีชีวิตชีวา


วัดฝอจี้ถือเป็นแหล่งโบราณสถานสำคัญ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานระดับมณฑลตั้งแต่ปี 2555 โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดูแลพระพุทธรูปเหล่านี้แบบ “อนุรักษ์ใต้น้ำ” คือไม่รื้อย้าย ไม่บูรณะ ไม่ตกแต่งเพิ่มเติม และไม่อนุญาตให้จุดธูปบูชาเมื่อโผล่พ้นน้ำ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวัง และติดกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันความเสียหาย

เมืองอันเยว่มีชื่อเสียงในด้านพุทธศิลป์ เพราะมีพระพุทธรูปหินกว่า 100,000 องค์ แกะสลักตามหน้าผาและถ้ำต่าง ๆ กว่า 230 แห่ง ส่วนใหญ่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเหนือ–ใต้ รุ่งเรืองในสมัยถังและซ่ง จนได้รับฉายาว่า “บ้านเกิดของงานแกะสลักหินจีน”

การกลับมาให้เห็นของ “เมืองพุทธใต้น้ำ” ในปีนี้ จึงไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนคุณค่าทางวัฒนธรรม และเป็นโอกาสให้ชาวบ้านและผู้คนได้กลับมาชื่นชมมรดกทางประวัติศาสตร์ที่เคยถูกซ่อนอยู่ใต้น้ำนานนับครึ่งศตวรรษ

ที่มา: 红星新闻