โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมายืนยันความตั้งใจของจีนที่จะสานต่อความร่วมมือกับสหภาพยุโรป (EU) แม้สื่อรายงานว่า EU ได้ยกเลิกการจัดการประชุมเวทีเศรษฐกิจระดับสูงกับจีน โดยจีนมองว่าการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองฝ่ายมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์โลกที่กำลังเปราะบาง
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 นายกัว เจียคุน (Guo Jiakun) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เป็นประธานในการแถลงข่าวประจำวัน โดยผู้สื่อข่าวจาก Bloomberg ถามถึงรายงานของสื่อ Financial Times ที่ระบุว่า สหภาพยุโรปได้ตัดสินใจยกเลิกเวที "การเจรจาเศรษฐกิจระดับสูงระหว่างจีน-ยุโรป" (China-EU High-Level Economic Dialogue) เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาด้านการค้ากับจีน และมองว่าการหารือจึง "ไม่มีความหมาย"
นายกัวไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงาน แต่แนะนำให้ผู้สื่อข่าวติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงของจีนเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เขาใช้โอกาสนี้กล่าวถึงภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป โดยระบุว่า “ปีนี้เป็นปีที่จีนและ EU สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ในสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนจากการกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจ การเสริมสร้างการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับ EU จะเป็นประโยชน์ต่อเสถียรภาพของโลก”
นายกัวยังกล่าวอีกว่า จีนและ EU ยังคงมีการสื่อสารกันในด้านเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่อง และจีนยินดีร่วมมือกับฝ่ายยุโรปในการปฏิบัติตามฉันทามติที่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้ รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับสูง และขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน-ยุโรปให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในอีกด้านหนึ่ง รายงานข่าวจาก Wall Street Journal และ Financial Times ให้ภาพชัดเจนว่าเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ EU ในการระงับเวทีเจรจากับจีนนั้น อาจเกี่ยวข้องกับแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันกำลังมีบทบาทอีกครั้งในเวทีการเมืองอเมริกัน ได้โพสต์ข้อความในแพลตฟอร์ม “Truth Social” เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขู่จะเก็บภาษีสินค้า EU สูงถึง 50% ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป หากการเจรจาทางการค้าไม่คืบหน้า
ทรัมป์กล่าวหาว่า EU เอาเปรียบสหรัฐในด้านการค้า ทั้งผ่านการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม การตั้งข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่ไม่เท่าเทียม และการดำเนินคดีปรับบริษัทอเมริกันในคดีผูกขาดอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ทรัมป์และทีมงานยังเรียกร้องให้ EU และพันธมิตรตะวันตกออกมาตรการกดดันจีนในภาคส่วนสำคัญ เช่น เหล็ก ยา และเทคโนโลยี
แม้จะถูกกดดันอย่างหนัก แต่สหภาพยุโรปยังคงพยายามรักษาความสมดุลทางยุทธศาสตร์ โดยมีท่าทีระมัดระวัง ไม่ต้องการปะทะกับจีนโดยตรง ขณะที่ก็ยังพยายามรักษาความร่วมมือทางการค้ากับสหรัฐฯ
ขณะที่ฝั่งจีน แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุอย่างชัดเจนว่า จีนไม่ต้องการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ แต่ขอปกป้องผลประโยชน์ของตนเองจากการกระทำเชิงรุกของประเทศอื่น โดยเตือนว่า “หากระบบการค้าระหว่างประเทศกลับไปสู่ยุคที่ผู้แข็งแกร่งกำหนดกฎเกณฑ์ โลกทั้งใบจะตกอยู่ในความเสี่ยง ไม่มีใครรอดพ้นได้”
จีนประกาศพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อปกป้องระบบพหุภาคีและหลักความเป็นธรรมทางการค้า พร้อมประณามการใช้นโยบายเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ฝ่ายเดียว
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า EU จะกลับมาจัดเวทีเจรจาเศรษฐกิจระดับสูงกับจีนในอนาคตอันใกล้หรือไม่ แต่แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนในครั้งนี้ชี้ชัดว่าจีนยังต้องการคงไว้ซึ่งช่องทางการสื่อสารและความร่วมมือกับยุโรป
ที่มา: 澎湃新闻 (The Paper), Financial Times, Wall Street Journal