จ่ายเพื่อความรู้สึก! เด็กรุ่นใหม่ซื้อ “สิ่งแทนใจ” มากกว่า “ของจำเป็น”

Pop Mart กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังจากยอดขาย "ลาบูบู้" (Labubu) ในปี 2567 พุ่งทะลุ 30,400 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นกว่า 726% จากปีก่อน และทำรายได้แซงหน้า "มอลลี่" (Molly) ขึ้นแท่นเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของบริษัท

นอกจากของเล่นสะสมแบบกล่องสุ่ม (Blind Box) แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ตลาดสัตว์เลี้ยง และขนมขบเคี้ยวแบบขายยกลัง ก็ได้รับความนิยมพุ่งขึ้นเช่นกัน หลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จีนมีกำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่า กลายเป็นกระแสหลักของการลงทุน

เบื้องหลังความร้อนแรงนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือถ้าใครเข้าใจแนวคิดการบริโภคของคนรุ่น 2000 หรือ “เจนซี” (เกิดหลังปี 2543) ได้ถูกจุด โอกาสทางธุรกิจจะเปิดกว้างอย่างมาก

คนรุ่นเจนซีอาจประหยัดเมื่อซื้อของใช้จำเป็น เช่น สั่งอาหารแบบแชร์ส่วนลด ซื้อเสื้อผ้าลดราคา ใช้ของคุ้มค่า แต่เมื่อเจอกับสินค้าที่ตอบโจทย์อารมณ์ ความชอบเฉพาะตัว หรือช่วยแสดงตัวตน พวกเขาพร้อมจ่ายเกินราคาโดยไม่ลังเล


รายงานจากแอป “เยว่หู” (Yuehu) ระบุว่า กว่า 70% ของผู้ใช้ Pop Mart เป็นคนรุ่นนี้ ซึ่งแม้มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 3,500 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 15,893 บาท) แต่ด้วยการเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวและได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากพ่อแม่ ทำให้มีอำนาจใช้จ่ายสูงกว่าที่ตัวเลขบ่งบอก

คนรุ่น 00 เลือกใช้เงินเพื่อ “ตัวเอง” มากกว่าการออม ซื้อบ้าน หรือใช้จ่ายเพื่อครอบครัวเหมือนคนรุ่นก่อน พวกเขาเน้นซื้อเพื่อความสุข ความพอใจ และแสดงตัวตนในโลกออนไลน์

ลาบูบู้ไม่ได้เป็นแค่ของเล่น แต่กลายเป็น “ตั๋วผ่านประตู” สู่สังคมเฉพาะกลุ่ม การสะสมของเล่น การมีสินค้ารุ่นลิมิเต็ด หรือแม้แต่เข้าร่วมงานอีเวนต์ ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงพวกเขากับกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน

เด็กรุ่นใหม่เติบโตมากับอินเทอร์เน็ต การตัดสินใจซื้อจึงได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียสูง เช่น สิ่งที่กำลังเป็นกระแสใน “เสี่ยวหงซู” (Xiaohongshu), “โต่วอิน” (Douyin) หรือสิ่งที่เพื่อนใน “เวยปั๋ว” (Weibo) แชร์


แนวคิดการซื้อของคนรุ่นนี้จึงไม่ใช่เพียงเพื่อการใช้งาน แต่เพื่อสื่อสารตัวตนและเชื่อมโยงกับสังคมในแบบที่พวกเขาเลือก

รายงานจาก “สมุดปกขาวว่าด้วยแนวโน้มการบริโภคของคนรุ่นใหม่ปี 2024–2025” ระบุว่า ความต้องการของคนรุ่นใหม่ เรียงลำดับจาก “คุณภาพ” → “การเข้าสังคม” → “ความรู้สึก” → “การใช้งานจริง” ซึ่งต่างจากอดีตที่เน้นแต่ “ใช้งานได้” เป็นหลัก

จึงไม่แปลกที่คนกลุ่มนี้จะใช้แอป “พินตัวตัว” (Pinduoduo) หาเสื้อราคาถูก แต่ก็ยอมจ่ายแพงให้กับลาบูบู้หรือสินค้าที่แสดงความชอบและตัวตน

พูดง่าย ๆ ว่า “บางเรื่องก็ประหยัดสุดขีด แต่บางเรื่องก็ทุ่มไม่อั้น”

ที่มา: 巨潮WAVE (JuChao WAVE)