ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์งัดกลยุทธ์ภาษีศุลกากรหวังกดดันจีนเข้าสู่โต๊ะเจรจาและยอมตกลงทำตามเงี่อนไขทางการค้าอย่างที่สหรัฐอเมริกาต้องการ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วนั้นกำลังทำให้อำนาจต่อรองของทรัมป์อ่อนแอลง
ในการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้จีนเมื่อเดือนเมษายน ทรัมป์ระบุว่า มาตรการภาษีจะทำให้จีนแบกรับต้นทุนการส่งออกเพิ่มขึ้น ซึ่งจะบีบให้จีนยอมเจรจากับสหรัฐฯ เนื่องจากจีนต้องพึ่งพาสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุด และหากไม่สามารถเห็นชอบตามข้อตกลงได้ จีนก็จะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งหมด
กลยุทธ์ภาษีมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับสมดุลการค้าที่สหรัฐฯเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็จริง แต่ทรัมป์ก็แข็งกร้าวกับจีนด้วยความเชื่อที่ว่าธุรกิจจีนจำเป็นต้องขายสินค้าให้กับบริษัทและผู้บริโภคของสหรัฐฯ ต่อไป
ข้อมูลการส่งออก ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ( 9 มิ.ย. ) วันเดียวกับการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนรอบสองที่กรุงลอนดอนระบุว่า การส่งออกของจีนไปสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม 2568 ลดลงกว่าร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
ในเดือนเมษายนการส่งออกไปสหรัฐฯ ก็เริ่มลดลงแล้วกว่าร้อยละ 20 ส่งสัญญาณว่าจีนกำลังหันไปพึ่งพาตลาดใหม่
กระเป๋าเงินใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับผู้ส่งออกจีนรวมถึงแอฟริกา ซึ่งในเดือนพฤษภาคมจีนส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และแคนาดาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ตามการวิเคราะห์ของคอนเวรา ( Convera ) ผู้เชี่ยวชาญด้านการชำระเงิน FX และการชำระเงินระหว่างประเทศ
ตามความเห็นของจอร์จ เวสซีย์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์มหภาคและ FX แห่งคอนเวรา ข้อมูลดังกล่าวอาจมองได้ว่า กำลังกัดเซาะจุดยืนของทรัมป์และความสามารถในการทำร้ายจีน นอกจากนั้น ยังปรากฏหลักฐานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับความสำเร็จในการกระจายตลาดของจีน ขณะที่การส่งออกโดยรวมของจีนนั้น สหรัฐฯมีส่วนแบ่งลดลงจากราวร้อยละ 23 ในช่วงต้นศตวรรษนี้เหลือเพียงร้อยละ 16
ทั้งนี้ การเจรจาที่เจนีวาเมื่อเดือนพฤษภาคมทำให้ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสองเข้าสู่ช่วงหยุดพักการขึ้นภาษีตอบโต้กันเป็นเวลา 90 วัน
ส่วนการเจรจารอบสองที่ลอนดอน ทั้งสองฝ่ายยังคงเน้นย้ำเรื่องการพักรบและประกาศกรอบการดำเนินการในอนาคตซึ่งมีรายละเอียดน้อยมาก สร้างความผิดหวังแก่เหล่านักวิเคราะห์ที่คาดหวังการเจรจาจะมีความคืบหน้าจนพอจะมองภาพออกว่า ข้อตกลงในท้ายที่สุดจะมีหน้าตาเช่นไร
จิม รีด แห่งธนาคารดอยช์แบงก์ระบุว่า แนวทางต่อไปในการทำให้การค้ากลับสู่ภาวะปกติอย่างแท้จริงยังคงไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลง “เสร็จสิ้น” แล้ว โดยจีนจะส่งออกแร่ธาตุหายากและแม่เหล็กให้สหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯจะทำตามคำมั่นสัญญา เช่น การอนุญาตให้นักศึกษาจีนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ นอกจากนั้น สหรัฐฯจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจากจีนในอัตราร้อยละ 55 ส่วนจีนจะเก็บสหรัฐฯร้อยละ 10 ทรัมป์บอกว่าตอนนี้แค่รอการลงนามรับรองจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเท่านั้น
ข้อมูล : ฟอร์จูน /ดิ อินดีเพนเดนต์