กรณีข่าวครึกโครม นักวิจัยชาวจีน 2 คนถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ) จับกุมและถูกกล่าวหาว่าลักลอบนำตัวอย่างเชื้อราอันตรายจากห้องปฏิบัติการเข้ามาในสหรัฐอเมริกา โดยเชื้อรานี้อาจนำมาใช้เป็นอาวุธก่อการร้ายทำลายอุตสาหกรรมการเกษตรของสหรัฐฯได้นั้น
ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านพืชของสหรัฐฯ หลายคนออกมาพูดตรงกันว่า ฟูซาเรียม แกรมินีรัม (Fusarium graminearum) เป็นเชื้อราที่พบอยู่ทั่วไปตามไร่นาในสหรัฐฯมานานกว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว สามารถป้องกันได้ด้วยการพ่นยาฆ่าแมลง และจะก่อให้เกิดอันตรายได้ก็ต่อเมื่อกินเป็นประจำและในปริมาณมากเท่านั้น
เจสสิกา รัตโคสกี้ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์พืช ผู้เพาะพันธุ์ข้าวสาลี และนักพันธุศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ วิทยาเขตเออร์แบนา-แชมเปญ พร้อมกับนักวิจัยคนอื่นๆ ระบุว่า ถ้านำเชื้อราฟูซาเรียมมาทำเป็นอาวุธก่อการร้าย มันจะเป็นอาวุธที่งุ่มง่ามมาก เพราะฟูซาเรียมเป็นเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ยาก
รัตโคสกี้เคยวิจัยเกี่ยวกับการทำให้ข้าวสาลีในแปลงทดลองติดเชื้อฟูซาเรียม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเชื้อโรคนี้ควบคุมได้ลำบาก ต้องรักษาสมดุลของอุณหภูมิและความชื้นในห้องปฏิบัติการให้เหมาะสมจึงจะเกิดการติดเชื้อได้
เกษตรกรอเมริกันต่อสู้กับโรคราใบไหม้จากเชื้อราฟูซาเรียม ( Fusarium head blight ) หรือโรคสแคป (scab) ในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชอื่นๆ ในช่วงฤดูฝน มาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1900
โรคนี้ยังทำให้เกิดสารพิษที่เรียกว่าโวมิท็อกซิน ซึ่งเป็นผลพลอยได้ในธัญพืช อย่างไรก็ตาม เมื่อเกษตรกรนำพืชผลไปขายให้กับโรงเก็บธัญพืช ทางผู้ซื้อมีการทดสอบและควบคุมอย่างเข้มงวด โอกาสที่ข้าวสาลีปนเปื้อนสารพิษจะเล็ดลอดสู่ตลาด ไปทำเป็นขนมปัง พาสต้า และคุกกี้ที่ชาวอเมริกันรับประทาน จึงมีปริมาณต่ำกว่าระดับที่จะทำให้เจ็บป่วยได้
แอนดรูว์ ฟริสคอป ศาสตราจารย์และนักพยาธิวิทยาพืชจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ทดาโกตาระบุว่า สหรัฐฯ มีประวัติในการจัดการกับโรคสแคปมาอย่างยาวนาน อีกทั้งเกษตรกรก็เริ่มฉีดพ่นสารป้องกันเชื้อราในไร่เป็นประจำมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 นอกจากนั้น นักวิจัยยังได้พัฒนาข้าวสาลีที่ต้านทานเชื้อราได้อีกหลายสายพันธุ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชยังกล่าวด้วยว่า การอาศัยแค่ตัวอย่างเชื้อจากห้องปฏิบัติการมาประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างครบถ้วนนั้น เป็นเรื่องทำได้ยาก หากไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์นั้นๆ
เมื่อวันอังคาร ( 3 มิ.ย.) อวิ้นฉิง เจี้ยน วัย 33 ปี นักวิจัยจากภาควิชาชีววิทยาโมเลกุล เซลล์ และการพัฒนาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ถูกศาลรัฐบาลกลางในเมืองดีทรอยต์ตั้งข้อกล่าวหาว่าช่วยเหลือจุนหยง หลิว แฟนหนุ่มวัย 34 ปี ลักลอบนำเชื้อราดังกล่าวเข้าสหรัฐฯ บุคคลทั้งสองสมรู้ร่วมคิดก่ออาชญากรรมหรือฉ้อโกงสหรัฐ ลักลอบขนสินค้าเข้าสหรัฐ ให้การเท็จ และฉ้อโกงวีซ่า โดยศาลกำหนดวันพิจารณาการให้ประกันตัวในวันที่13 มิถุนายน
ด้านสถานกงสุลใหญ่ของจีนในนครชิคาโกได้ยื่นหนังสือประท้วงต่อฝ่ายสหรัฐฯ กรณีการจับกุมนักวิจัยจีนดังกล่าว โดยระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายของฝ่ายสหรัฐฯ ในกรณีนี้ไม่เป็นไปตามพันธกรณีที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลระหว่างจีน-สหรัฐฯ นอกจากนั้น จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการใช้อำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยนำเรื่องอุดมการณ์และความมั่นคงของชาติที่เกินขอบเขตมาใช้เป็นข้ออ้าง
ที่มา : รอยเตอร์/โกลบอลไทมส์