xs
xsm
sm
md
lg

“เพราะทรัมป์ขอมา” สี จิ้นผิง และทรัมป์ โทรคุยกันแล้ว ถกจับมือกัน "ยุติสงครามการค้า"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สื่อทางการจีนรายงานเมื่อเวลา 20.48 น. ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง โทรคุยกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ 

กลุ่มสื่ออ้างแหล่งข่าวหน่วยงานในกระทรวงต่างประเทศจีน และสถานทูตจีนประจำสหรัฐฯ เผยว่าการโทรคุยระหว่างผู้นำสองชาติครั้งนี้มาจากการริเริ่มของประธานาธิบดี ทรัมป์

ก่อนหน้าที่ผู้นำทั้งสองโทรคุยกัน ทรัมป์ โอดว่า “การติดต่อกับสี เป็นเรื่องยากเย็นมากๆ”

“ผมอยากคุยกับสีตลอดมา แต่เขาใจแข็งมาก...ยากโครตๆที่จะติดต่อกับเขาได้!!!!” ข้อความที่ทารัมป์โพสต์ในบัญชีโซเชียลมีเดียของเขา เมื่อวันพุธ(4 มิ.ย.)
(“I like President XI of China, always have, and always will, but he is VERY TOUGH, AND EXTREMELY HARD TO MAKE A DEAL WITH!!!”)

ทั้งนี้ ทรัมป์โทรคุยกับสีจิ้นผิงครั้งที่แล้ว คือ ในวันที่ 17 ม.ค. ซึ่งเป็นจังหวะก่อนหน้าไม่กี่วันที่เขาจะขึ้นตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองอย่างเป็นทางการ


"คำค่อคำ" สีจิ้นผิง และ ทรัมป์ คุยอะไรกัน 

สีจิ้นผิง
กล่าวว่า  ต้องมีการปรับความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ขจัดปัจจัยต่างๆที่แทรกแซงเข้ามาไปยันการบ่อนทำลาย นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ตามที่สหรัฐฯเสนอ...ผู้แทนสองฝ่ายในที่ประชุมเศรษฐกิจและการค้าที่นครเจนีวาได้บรรลุข้อตกลงที่เป็นความก้าวหน้าไปขั้นหนึ่งในการคลี่คลายปัญหาการค้ากันแล้ว เป็นที่ยินดีของสองประเทศและนานาชาติ พร้อมกับได้พิสูจน์แล้วว่าการเจรจาและความร่วมมือเป็นหนทางหนึ่งเดียวในการแก้ไขปัญหา สองฝ่ายจะต้องใช้กลไกการการปรึกษาหารือทางการค้าที่ได้จัดตั้งขึ้นมาแล้วให้ดีๆ ธำรงความเสมอภาค เคารพในปัญหาของอีกฝ่าย และผลักดันเป้าหมายที่สมประโยชน์ด้วยกัน

ชาวจีนรักษาคำสัญญาเสมอและทำจริง เมื่อได้บรรลุฉันทามติกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ควรปฏิบัติตามนั้น

จีนเคร่งครัดในการดำเนินตามข้อตกลงเจนีวา สหรัฐฯควรมองความก้าวหน้า (ในการแก้ปัญหา) ที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง
และยกเลิกมาตรการที่เป็นลบ (สร้างความเสียหาย) ต่อจีน สองฝ่ายควรแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆทั้งการทูต เศรษฐกิจการค้า การทหาร การบังคับใช้กฎหมายส่งเสริมฉันทามติ ลดความเข้าใจผิด และขยายความร่วมมือ


สีจิ้นผิง ยังย้ำอีกว่า สหรัฐฯจะต้องจัดการประเด็นไต้หวันอย่างระมัดระวังมากเพื่อป้องกันพวกแบ่งแยกดินแดนกลุ่มเล็กกระจิดริดที่ต้องการ “อิสรภาพไต้หวัน” มาลากจีนและสหรัฐฯถลำเข้าสู่สถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย ความขัดแย้งและการเผชิญหน้ากัน

ทรัมป์ แสดงออกถึงความเคารพนับถือสีจิ้นผิงมาก ความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯทรงความสำคัญมาก สหรัฐฯมองบวกว่าจีนสามารถรักษาการเติบโตเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ความร่วมมือจีนและสหรัฐฯจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆได้อีกมากมาย สหรัฐฯจะยึดถือนโยบายจีนเดียว การเจรจาฯที่เจนีวาระหว่างสองประเทศประสบความสำเร็จอย่างมากและได้ข้อตกลงดีๆ สหรัฐฯยินดีที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อบรรลุข้อตกลงฯ และยินดีต้อนรับนักศึกษาจีนมาเรียนที่สหรัฐฯ


สีจิ้นผิง กล่าวยินดีต้อนรับทรัมป์มาเยือนจีนอีกครั้ง สองผู้นำชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจได้ตกลงกันว่า ทีมสองฝ่ายจะบรรลุฉันทามติเจนีวาและเปิดการเจรจารอบใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

สำหรับการพูดคุยของทรัมป์ และ สีจิ้นผิงครั้งนี้เป็นที่จับตาและความหวังของชาวโลกอย่างมาก สืบเนื่องจากสงครามการค้าที่ทำการค้าโลกอลเวงไปหมด โดยเฉพาะการโรมรันสงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เดือดสุดติ่งในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยเริ่มจากทรัมป์ประกาศขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นระลอกๆจากเดือน ก.พ. จนภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 145 เปอร์เซ็นต์

ด้านจีนโต้ตอบโดยประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จนอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯมายังจีน ทะยานขึ้นไปถึง 125 เปอร์เซนต์

สหรัฐฯและจีน ได้เปิดการประชุมเศรษฐกิจและการค้าที่นครเจนีวา เมื่อวันที่ 12 พ.ค. โดยผู้นำทีมการเจรจาฝ่ายสหรัฐฯได้แก่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการคลัง และเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้า สำหรับผู้นำทีมการเจรจาฝ่ายจีน คือ รองนายกรัฐมนตรี เหอ ลี่เฟิง

ทั้งสองบรรลุข้อตกลงพักรบสงครามการค้า เป็นเวลา 90 วัน

ตามข้อตกลงชั่วคราวนี้ระบุว่า ภายในวันที่ 14 พฤษภาคม สหรัฐฯ จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลงชั่วคราวจาก 145% เหลือ 30% ในขณะที่จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลงจาก 125% เหลือ 10%


กำลังโหลดความคิดเห็น