“ ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ( " Make America Great Again ") เป็นคำขวัญที่โดนัลด์ ทรัมป์นิยมใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จนประสบชัยชนะถึงสองสมัย แต่มาถึงวันนี้คำขวัญยอดฮิตของทรัมป์กลับตาลปัตรเสียแล้ว กลายเป็นว่าสหรัฐฯกำลังทำให้จีนกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยนโยบายภาษีการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์เองแท้ ๆ
นับตั้งแต่ทรัมป์เข้าบริหารประเทศเมื่อเดือนมกราคม ชาติส่วนใหญ่แสดงทัศนคติต่อสหรัฐฯแย่ลง พร้อมกันนั้นก็มีทัศนคติที่ดีขึ้นกับจีน ตามการวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยเทคโนโลยี Morning Consult และรายงานเป็นครั้งแรกโดย Axios
ผลการวิเคราะห์ล่าสุดเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคมระบุว่า จีนมีคะแนนความนิยมสุทธิ 8.8 ส่วนสหรัฐฯ -1.5 ซึ่งลดฮวบ หากเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนมกราคม 2567 คะแนนความนิยมสหรัฐฯ อยู่เหนือ 20 ส่วนจีนติดลบ
การวิเคราะห์อาศัยข้อมูลการสำรวจ 41 ประเทศ รวมถึงแคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย โดยหลายประเทศเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่สุดด้านเศรษฐกิจและการทหารของสหรัฐฯ
รายงานของ Morning Consult ระบุว่า ชื่อเสียงของสหรัฐฯในโลกตกต่ำสุด หลังจากทรัมป์ประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้กับชาติต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ซึ่งทรัมป์เรียกว่าวันแห่งการปลดปล่อย ( Liberation Day ) ทำให้ความนิยมสุทธิต่อสหรัฐฯ เข้าสู่แดนลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565
สาเหตุอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดของรัฐบาลทรัมป์ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสหรัฐฯน้อยลง ซอฟต์พาวเวอร์ของสหรัฐฯถูกฟาดอย่างชัดเจน
สำหรับผลการวิเคราะห์เมื่อสิ้นเดือนเมษายนระบุว่า มีเพียง 13 ชาติเท่านั้นที่มองสหรัฐฯอย่างชื่นชอบมากกว่าจีน เปรียบเทียบกับผลการสำรวจเมื่อต้นปีที่มี 29 ชาติ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องเลวร้ายยังมีเรื่องดี ๆซ่อนอยู่ ตามรายงานของ Morning Consult นั่นก็คือชื่อเสียงของสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากทรัมป์ประกาศระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้เป็นเวลา 90 วัน นอกจากนั้น เรตติ้งของสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากทรัมป์ประกาศลดอัตราภาษีศุลกากรกับจีนจาก 145% เหลือ 30% เมื่อเดือนที่แล้ว
ข้อมูล : The Independent