หวัง เจิ้งอี้ วัย 41 ปี และซ่ง จื่อฮั่น วัย 29 ปี เป็นคู่รักชาวจีนผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) กลุ่มแรกที่มาแต่งงานกันในประเทศไทย หลังจากไทยประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อต้นปีนี้
“ ไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพมากขึ้น”
“และยังเปิดกว้างยอมรับชุมชนของเรามากกว่าเดิมอีกด้วย” หวังกล่าว หลังจากทั้งคู่จดทะเบียนสมรสกันที่สำนักงานเขตแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
หวังยังเชื่อด้วยว่า ตนเองกับแฟนเป็นคู่รักเกย์ชาวจีนคู่แรกที่ได้จัดพิธีแต่งงานอย่างครบถ้วนในประเทศไทย และหวังว่าจะสร้างพลังโน้มน้าวเชิงบวกให้แก่คู่รักอื่น ๆ ซึ่งจะค่อยๆ ทำตามอย่างเขากันมากขึ้น
หวังกับซ่งรู้จักกันในงานปาร์ตี้ของเพื่อนคนหนึ่งในจีน และเป็นรักแรกพบ
“ตัวเราคิดว่าเขาหล่อและบริสุทธิ์” หวังเปิดใจ
“เมื่อเวลาผ่านไปความรักของเรายิ่งลึกซึ้ง”
คบหาดูใจกันเกือบสามปี ทั้งคู่ก็จูงมือกันมาแต่งงานในไทย ซึ่งกลายเป็นประเทศใหญ่สุดในเอเชียที่รับรองสิทธิการสมรสของคนเพศเดียวกัน ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติที่สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย
ถึงแม้ทางการจีนได้ยกเลิกความผิดทางอาญาสำหรับผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศเมื่อปี 2540 แต่การสมรสของคนเพศเดียวกันยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายและถูกตีตราในสังคม
หวังกับซ่งใช้บริการของนาย โอเว่น จู ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ วัย 40 ปี ซึ่งมีธุรกิจรับจัดพิธีแต่งงานและจัดเตรียมเอกสารสำหรับคู่รักเกย์ชาวจีนในประเทศไทย
นายจูเปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสมีคุณค่าทางจิตใจต่อลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะหมายถึงโลกได้ให้การยอมรับ
ถึงแม้จะมีอุปสรรคเกี่ยวกับการขอใบรับรองสถานภาพโสดตามที่ประเทศไทยกำหนดเพื่อพิสูจน์ว่าบุคคลนั้นไม่ได้ผ่านการสมรส ซึ่งจะเป็นเรื่องยากสักหน่อย อีกทั้งจีนก็ไม่รับรองการสมรสเพศเดียวกันที่จดทะเบียนในต่างประเทศ แต่ขณะนี้มีคู่รักLGBTQชาวจีนที่ต้องการแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไทยให้เสรีภาพกระทำสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในประเทศจีน เช่น การจับมือถือแขนหรือจูบกันในที่สาธารณะ
เนเธอร์แลนด์เป็นชาติแรกที่ประกาศกฎหมายการสมรสเพศเดียวกันในปี 2544 และปัจจุบันมีกว่า 30 ชาติที่ประกาศกฎหมายนี้ ไทยประกาศเป็นชาติที่สามในเอเชีย หลังจากไต้หวัน และเนปาล โดยไทยติดอันดับต้น ๆ ในการทำดัชนีชี้วัดทัศนคติที่ดีของประชาชนต่อLGBTQ กระทั่งรัฐสภาไทยผ่านร่างกฎหมายการสมรสเท่าเทียมกันในเดือนมิถุนายน 2567
คู่รักเพศเดียวกันหลายพันคู่จากทั่วราชอาณาจักรไทยเข้าพิธีสมรสหมู่ในวันเดียวกับที่มีการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อเดือนมกราคม
นายคริส เหยียน ที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการสมรสอย่างเป็นทางการของหวังกับซ่งกล่าวว่า ขั้นตอนสำหรับชาวต่างชาติในการจดทะเบียนสมรสในประเทศไทยค่อนข้างราบรื่น ตราบใดที่พวกเขาสามารถจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นได้ นอกจากนั้น เขายังเชื่อว่า ไทยมีภาษีดีกว่าอีกหลายประเทศทั้งในแง่ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ การดำเนินการด้านเอกสารมีความรวดเร็วกว่า และคู่สมรสสามารถอยู่ในไทยได้นานกว่าประเทศอื่น
พิธีแต่งงานของหวังและซ่งจัดขึ้นอย่างสวยงามบนชายหาดพัทยาท่ามกลางเพื่อนสนิทหลายสิบคน
หลังดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ทั้งสองจะเดินทางกลับประเทศจีนบ้านเกิด แต่ก็หวังว่าจะใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่ไทย
ชีวิตนี้สั้นนัก “จงอยู่กับคนที่คุณอยากอยู่ด้วย” หวังฝากบอกกับคู่รัก LGBTQ คู่อื่น ๆ
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์