บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท
การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี
แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง
ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5%
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ว่า การตัดสินใจลดราคาครั้งใหญ่ของบีวายดีเป็นผลจากแรงกดดันยอดขายและการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้เล่นหน้าใหม่ เช่น Xiaomi และ AITO ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มรถไฟฟ้าระดับราคา 200,000 หยวน (หรือ 911,990 บาท) ขึ้นไป
การลดราคาครั้งใหญ่นี้จุดประกายให้คู่แข่งหลักอย่าง Geely Galaxy ตอบโต้ด้วยการปรับราคาลดสูงสุด 20,000 หยวน ( ประมาณ 91,199 บาท) ครอบคลุมหลายรุ่นในสาย Starwish, Starship และ E5 พร้อมบวกกับนโยบายแลกรถเก่า ซึ่งเมื่อรวมกับการสนับสนุนของรัฐบาล ทำให้บางรุ่นมีราคาต่ำกว่า 100,000 หยวน สร้างกระแสโปรโมชั่นรุนแรงที่สุดในปีนี้ และคาดว่าจะมีผู้ผลิตรายอื่นเช่น Wulingและ Chery ร่วมวงในไม่ช้า สะท้อนความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมจะเข้าสู่ “สงครามราคารอบใหม่” อย่างเต็มตัว
ในด้านกำไร แม้บีวายดีจะยังคงทำกำไรต่อคันได้สูงที่สุดในประเทศ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ทำกำไรเฉลี่ยต่อคันได้ 8,733 หยวน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 9,000 หยวนในครึ่งปีแรก แต่ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า อุตสาหกรรมรถยนต์จีนมีกำไรเฉลี่ยเพียง 3.9% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งลดลงจาก 4.3% ในปีก่อนหน้า หากเปรียบเทียบกับ Toyota ที่มีกำไรเกือบสองเท่าของบริษัทรถยนต์จีนรวมกัน จะเห็นว่าอุตสาหกรรมยังมีข้อจำกัดด้านผลตอบแทนต่อการลงทุนอย่างมาก
นอกจากนี้ แม้บีวายดีจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลงจากการควบคุมห่วงโซ่อุปทานเอง เช่น แบตเตอรี่ และระบบไฮบริด DM-i ที่พัฒนาขึ้นเองจนสามารถลดต้นทุนได้มาก แต่หากยอดขายไม่ถึงเป้าหมาย การใช้งานกำลังการผลิตขนาด 6 ล้านคันต่อปีก็อาจต่ำกว่า 70% ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น
ด้วยเหตุนี้ บีวายดีจึงต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศเพื่อรักษาการเติบโต โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 117% เป็น 214,000 คัน และตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 800,000 คัน กลยุทธ์สำคัญคือการผลิตในประเทศเป้าหมาย เช่น โรงงานในไทยที่ช่วยลดต้นทุนของรุ่น ATTO 3 และการขายรุ่น Seal ในยุโรปในราคาสูงกว่าตลาดจีนเกือบเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดต่างประเทศยังต้องเผชิญอุปสรรคใหญ่ เช่น กำแพงภาษี ความไว้เนื้อเชื่อใจในแบรนด์ ความเข้มงวดของกฎระเบียบและการยอมรับจากตลาดท้องถิ่น การลดราคาผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศอาจสร้างผลสะท้อนกลับที่ไม่คาดคิดในระยะยาว จึงจำเป็นต้องใช้ความรอบคอบและร่วมมือในระดับอุตสาหกรรม
เตือน "การแข่งขันที่รุนแรง" จะฉุดภาคยานยนต์จีน ตามรอย “เอเวอร์แกรนด์”!
สื่อจีนอ้างวงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ชี้ว่า การที่บีวายดีต้องจัดโปรโมชั่นแรงเช่นนี้ เพราะแรงกดดันจากตลาดภายในประเทศ บีวายดีกำลังเผชิญความเสี่ยงในสี่ด้านหลัก ได้แก่ กำไรที่ลดลง, เทคโนโลยีไม่ได้แตกต่างจากค่ายรถยนต์รายอื่น (ไม่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า) ความต้องการจากต่างประเทศมีจำกัด และการแข่งขันที่รุนแรงภายในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อาจจะทำให้ภาคอีวีจีน ประสบปัญหาแบบ “เอเวอร์แกรนด์” แห่งภาคอสังหาริมทรัพย์ และก่อแรงสั่นสะเทือนแบบลูกโซ่ในอุตสาหกรรมได้
เว่ยเจี้ยนจวิน แห่ง ค่าย GWM เตือนว่า การแข่งขันทีรุนแรงอาจทำให้ภาครถยนต์จีนประสบกับชะตากรรมแบบ “เอเวอร์แกรนด์”
การล้มของบริษัทอสังหาฯรายใหญ่จีน เอเวอร์แกรนด์ (Evergrande Group) เป็นโศกนาฏกรรมของภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่วนภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ฟ้าจะผ่าลงมาเมื่อไหร่เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
บีวายดีเปิดศึกหั่นราคายกล่าสุด จัดโปรโมชันลดราคารถยนต์ในเดือน มิ.ย.2025 ตัวอย่างเช่น
- Seagull ลดราคาเหลือ55,800 หยวน ( ประมาณ 254,517 บาท),
- Sea Lion05DM-I ลดราคาเหลือ72,800 หยวน ( ประมาณ 332,219 บาท),
- Dolphin ลดราคาเหลือ77,800 หยวน ( ประมาณ 355,036 บาท),
- Song PLUSDM-I ลดราคาเหลือ99,800 หยวน ( ประมาณ 455,211 บาท),
- Seal 07DM ลดราคาเหลือ102,800 หยวน ( ประมาณ 468,895 บาท)
* หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 29 พ.ค. 2025: 1 หยวน เท่ากับ 4.562 บาท
ที่มา 明镜pro、车壹条、鉅亨網, Sohu