xs
xsm
sm
md
lg

เจาะลึกชีวิต ‘เจนเซน หวง’ ในสิบเรื่องราว: จากเด็กล้างห้องน้ำโรงเรียน-ล้างจานในร้านอาหาร สู่ฉายา “ก็อดฟาเธอร์แห่งโลกเอไอ” (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปี 2021 และ ปี 2024 นิตยสารไทม จัดให้ เจนเซน หวง เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลก
10 เรื่องราวของ เจนเซน หวง หรือในชื่อจีนคือ หวง เหรินซวิน : 9 ขวบล้างห้องน้ำทั้งโรงเรียน, บุกเบิกธุรกิจขณะทำงานล้างจานในร้านอาหาร, เพื่อนแท้ต่างวัยในไต้หวันที่ทำให้ Nvidia มีวันที่ยิ่งใหญ่นี้, ชีวิตคบสาวคนเดียวคือภรรยา!

หวง เหรินซวิน (黃仁勳) คือใคร? เรื่องราวการบุกเบิกธุรกิจของหวงเหรินซวิน เป็นอย่างไร? หวงเหรินซวิน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซึ่งต่อไป ขออ้างถึงเขาในชื่อ หวงเหรินซวิน คนเล็กแห่งเอเชีย ผู้ประกาศศักดา “คนเลือดมังกรผู้พิชิต” เหนือแดนพญาอินทรีแห่งยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI)


หวงเหรินซวิน ไม่ใช่แค่ลูกหลานสายเลือดแท้ๆของคนเมืองไถหนัน เมืองทางใต้ของไต้หวัน ยังเป็นผู้ประกอบการเชื้อชาติไต้หวันที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของเอ็นวิเดีย (Nvidia) ด้วยการคาดการณ์กระแสเอไอที่แม่นยำทำให้หุ้นของ Nvidia พุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนดันมูลค่าตลาดพุ่งทะลุจากระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ชาวไต้หวันจึงเรียกฉายาหวงเหรินซวินว่า “หนุ่มหนึ่งล้านล้าน” ผู้กลายเป็น “หนุ่มสามล้านล้าน” ไม่ว่าหวงเหรินซวินไปถึงที่ใดก็จะบังเกิดปรากฏการณ์ผู้คนกรูเข้ามารุมล้อมราวกับลมบ้าหมูพัด (ซึ่งชาวไต้หวันเรียกขายปรากฎการณ์นี้ว่า (老黄炫风) และด้วยภาพลักษณ์หนุ่มผู้อ่อนโยน จริงใจ การพูดคุยด้วยภาษาท้องถิ่นไต้หวันที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทำให้หลายคนหลงรักเขา


จากเด็กล้างจาน ผู้กลายมาเป็น “หนุ่มสามล้านล้าน” และมีฉายา “ก็อดฟาเธอร์แห่งเอไอ” ได้อย่างไร? 10 เรื่องราวอย่างย่นย่อของเขาต่อไปนี้รวบรวมจากบทสัมภาษณ์สื่อในไต้หวันเป็นหลัก จะเผยให้เห็นสิ่งที่นำมาซึ่งความสำเร็จยิ่งใหญ่ในยุคที่เอไอกำลังครองโลก

เจนเซน หวง กับพ่อแม่ (ภาพจากสื่อจีน)
1) หวง เหรินซวินถูกส่งไปโรงเรียนประจำในเคนทักกี สหรัฐฯ ตอนอายุ 9 ขวบ และต้องล้างห้องน้ำทั้งโรงเรียน!

หวงเหรินซวิน เกิดที่เมืองไถหนัน ไต้หวัน ปี 1963 ตอนหวงอายุ 5 ขวบ ย้ายมาอยู่ที่ไทยเพราะครอบครัวย้ายตามพ่อที่มาทำงานโรงกลั่นน้ำมันในไทย ต่อมาตอนหวงเหรินซวินอายุ 9 ขวบ พ่อแม่ส่งเขาและพี่ชายวัย 11 ปี ลี้ภัยเหตุการณ์ลุกฮือทางการเมืองในกรุงเทพฯ (เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ) ไปอยู่กับน้าชายที่รัฐวอชิงตัน

สองพี่น้องจึงถูกส่งไปอยู่ที่โรงเรียนในเขตชนบทที่ค่าเล่าเรียนถูกที่สุด คือสถาบันศาสนา “แบ๊บติสต์โอเนดา” (Oneida Baptist Institute) ในรัฐเคนทักกี ที่นี่...ไม่น่าเรียกว่าโรงเรียน หากเป็นสถาบันปรับปรุงพฤติกรรมเด็กเยาวชนมากกว่า นักเรียนในแบ๊บติสต์โอเนดาส่วนใหญ่เป็น “เด็กมีปัญหา”

หวงและพี่ชายเป็นชาวจีนเพียงสองคนในโรงเรียน นักเรียนทุกคนต้องทำงานสารพัด หวงเหรินซวินซึ่งมีอายุน้อยที่สุด ถูกมอบหมายให้ล้างห้องน้ำทั้งโรงเรียน!

หวงเหรินซวิน เล่าถึงชีวิตในแบ๊บติสต์โอเนดาว่า “เด็กนักเรียนทุกคนมีมีด และหลายคนมีรอยสักทั้งตัว”

ด้วยหวงอายุน้อยกว่า พูดภาษาอังกฤษตะกุกตะกักสำเนียงเน่อๆ จึงโดนเพื่อนๆรังแกชกต่อยตีบ่อยๆ แต่ภาพที่เด็กเกเรพวกนั้นคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นคือ เด็กตัวเล็กๆข้ามถิ่นจากประเทศในซีกโลกตะวันออก ไม่เคยร้องไห้สะอึกสะอื้น หากยังปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยม


ประสบการณ์พิเศษเหล่านี้ได้บ่มเพาะความกล้าหาญที่สำนวนจีนเรียกว่า “ฟ้าไม่กลัวดินไม่กลัว” ให้กับหวงเหรินซวิน


2) งานหารายได้พิเศษงานแรกของหวงเหรินซวิน เป็นเด็กล้างจานในร้านอาหาร

หวงเหรินซวินเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างอิสระเป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่วัยเด็ก ในวัยแค่ 10 ขวบเศษๆเขาได้งานพาร์ทไทมในร้านอาหารแฟรนไชน์อเมริกัน เดนนี่ส์ (Denny’s) มีหน้าที่ล้างจานและรับรายการสั่งอาหารจากลูกค้า การทำงานที่นี่ทำให้หวงเหรินซวินซึ่งแต่ดั้งเดิมเป็นเด็กเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใครได้เรียนรู้ที่จะสื่อสารกับผู้คนและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม


ปรัชญาชีวิตของหวงเหรินซวิน...เขาเชื่อว่าคนจะประสบสำเร็จได้ต้องมี “ความอดทนยืนหยัด สู้ยิบตาไม่ถอย” จึงจะยิ่งใหญ่ได้


3) เมื่ออายุ 15 ปี ชนะเหรียญทองแดงในการแข่งขันปิงปอง Junior Table Tennis World Open

หวงเหรินซวิน หลงใหลการเล่นกีฬาปิงปองมาแต่วัยเด็ก! หวงเล่าว่า “ชีวิตตอนอยู่โรงเรียนประจำลำบากมาก พวกนักเรียนชอบทะเลาะต่อยตีตะลุมบอนกันแทบทุกวัน” รูมเมดของเขาเป็นรุ่นพี่อายุ 17 ปี เป็นคนไม่รู้หนังสือ สักลวดลายเต็มตัวและมีรอยแผลเป็นจากมีดฟันหลายแห่งตามร่างกาย หวงสอนรุ่นพี่อ่านหนังสือและทำการบ้านโดยแลกกับให้รุ่นพี่สอนฝึกการยกน้ำหนักและออกกำลังกายสร้างร่างกายที่แข็งแกร่ง ต่อมาหวงก็หลงใหลการตีปิงปอง เขามักนอนหลับในชมรมปิงปองและตื่นขึ้นมาก็ตีปิงปองต่อ การฝึกฝนอย่างหนักนี้ทำให้หวงเป็นนักกีฬาดีเด่นได้ขึ้นปกนิตยสารกีฬาชั้นนำ “Sports Illustrated” เมื่ออายุ 14 ปี ปีถัดมาตอนอายุ 15 ปียังได้เข้าร่วมการแข่งขัน Junior Table Tennis World Open ชนะเหรียญทองแดง กีฬายังช่วยให้หวงมีความมุ่งมั่นแรงกล้าและมีวินัย

ร้าน Dennys จัดโซนหนึ่งในร้านเป็นที่ระลึกให้กับ Nvidia เพราะไอเดียการก่อตั้ง Nvidia เกิดขึ้นที่นี่
4) หวงได้แรงบันดาลใจที่จะบรรลุความฝันในการเป็นผู้ประกอบการที่ร้านอาหารแฟรนไชส์อเมริกัน และก่อตั้ง Nvidia ด้วยมือเปล่าในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 30 ปีของเขา

หวงเหรินซวินก่อตั้ง Nvidia ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1993 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดปีที่ 30 ของเขา จากรายงานของสื่อต่างประเทศ...เขากับเพื่อนสองคนที่ร่วมก่อตั้ง Nvidia คือ Chris Malachowsky และ Curtis Priem ได้ริเริ่มความคิดที่จะสร้างธุรกิจกันที่ร้านอาหารแฟรนไชส์อเมริกันเดนนนี่ส์ ช่วงนั้นพวกเขามีงานทำกันแล้วและยังมักนัดพบกันบ่อยๆเพื่อถกเถียงเกี่ยวกับการก่อตั้งบริษัทที่ร้านเดนนี่ส์ สามเกลอมักนั่งคุยกันนานถึงสี่ชั่วโมง ซดกาแฟที่สามารถเติมฟรีได้ไม่อั้นจนถูกไล่ให้ไปหลังร้าน ไปขอใช้ห้องตำรวจแคลิฟอร์เนียนั่งคุยกันต่อ

เจนเซน หวง ควง ภรรยามาไต้หวัน
5) หวงเหรินซวินคบสาวเพียงคนเดียว และภรรยาของเขาก็คือเพื่อนสาวคนแรกที่เขาคบนั่นเอง!

หวงเหรินซวินเป็นคนขี้อายมาแต่เด็ก และสาวๆที่เขาพบและรู้จักตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่มมักมีอายุแก่กว่าเขา พวกเธอล้วนเห็นเขาเป็นเด็กน้อย และเมื่ออายุ 17 ปี เขาได้พบกับลอรี่ (Lori) ทั้งสองมักทำการทดลองในห้อ
งแล็บมหาวิทยาลัยด้วยด้วยกัน หวงยังนัดกับลอรี่ทำการบ้านตอนสุดสัปดาห์ ครึ่งปีต่อมาเขาได้ออกเดทกับลอรี่ไปกินข้าวและดูหนังกัน ในที่สุดหนุ่มเลือดมังกรก็พิชิตหัวใจสาวอเมริกัน ทั้งสองแต่งงานกันใน 5 ปีต่อมา

รอยสัก Nvidia บนไหล่ เจนเซน หวง
6) ลูกชายของหวงเหรินซวิน เป็นผู้พาเขาไปสักลายที่แขน กลายเป็น “ซีอีโอบริษัทเทค ผู้มีรอยสัก”

หวงเป็นหนึ่งในตัวแทนแบบอย่างของซีอีโอบริษัทเทค ทว่า ที่ไหล่ซ้ายของเขามีรอยสักเล็กๆเป็นคำว่า “NVIDIA” รอยสักนี้มีที่มาจากการพูดคุยระหว่างหวงกับพนักงานของNvidia ครั้งหนึ่ง ว่า ถ้าหุ้นของบริษัทสูงหุ้นละถึง 100 ดอลลาร์ จะทำอะไรสักหน่อยไหม? ตอนนั้นพนักงานต่างเสนอไอเดียต่างๆ เช่น โกนหัว ย้อมสีผมเป็นสีฟ้าหรือสีเขียว ฯลฯ ในที่สุด หวงเหรินซวิน พูดขึ้นว่า “ถึงตอนนั้นผมจะสัก” และเมื่อหุ้นของ Nvidia พุ่งทะลุ 100 เหรียญสหรัฐ หวงเหรินซวินก็สักที่ไหล่ซ้ายของเขาในปี 2008 รอยสักนั้นคือแบบโลโก Nvidia โดยลูกชายของเขาเป็นคนพาไปสัก เมื่อหวงพูดถึงการสักบนแขน เขาก็จะครวญว่า “มันเจ็บจริงๆ”

มอริส จาง ผู้ก่อตั้ง TSMC ผู้ช่วยเหลือทำให้มี Nvidia ในวันนี้
7) กับ “มอริส จาง” กัลยาณมิตรต่างวัย

หวงเหรินซวิน พูดเสมอว่า “ไม่มี TSMC ก็ไม่มี Nvidia”

หวงเหรินซวิน ผู้มีเคยฉายา “ก็อดฟาเธอร์แห่ง Graphics Card” และตอนนี้ก็ได้ฉายาเป็น “ก็อดฟาเธอร์แห่งวงการเอไอ” เขาสนิทสนมผูกพันกับ “ก็อดฟาเธอร์แห่งเซมิคอนดักเตอร์” จางจงโหมว (張忠謀)หรือชื่อสากลคือ มอริส จาง (Morris Chang) ผู้ก่อตั้ง TSMC แห่งไต้หวัน แม้อายุห่างกัน 32 ปี ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงที่ปรึกษา การก่อตั้ง Nvidia ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น แต่เคยประสบวิกฤตถึงขั้นหวิดปิดบริษัท โชคดีที่ มอริส จางยื่นมือมาช่วยเหลือ บุญคุณนี้ติดตรึงในใจของหวงเหรินซวินอย่างไม่เคยลืมเลือนเลย


หวงเหรินซวินได้มอบของขวัญที่ระลึกในวันเกษียณของมอริส จาง คือ “การ์ตูนช่อง” เป็นภาพบันทึกวันเวลาที่งดงามและสำคัญของชีวิตในสัมพันธภาพของทั้งสอง ที่จริงมิตรต่างวัยคู่นี้รู้จักกันเมื่อปี 1995 ตอนนั้นหวงเหรินซวินเขียนจดหมายไปหามอริส จาง ถามว่า TSMC จะผลิตชิปชิ้นแรกให้ Nvidia ได้ไหม ปีนั้น TSMC เพิ่งดำเนินการได้ 6-7 ปี และหวงเหรินซวินยังเป็นคนหนุ่มช่วงวัย 30 เมื่อ มอริส จาง ได้รับจดหมายจากหวงเหรินซวินก็โทรไปที่สำนักงานบริษัท Nvidia พอดีกับที่หวงหรินซวินเป็นผู้รับโทรศัพท์ และเมื่อได้ยินผู้โทรมาแนะนำตัว “ผมคือ มอริส จาง” หวงหันขวับมาบอกกับคนข้างๆที่กำลังคุยเสียงดังว่า “หุบปาก! เงียบ!... มอริส จาง โทรมานะ” และการพูดคุยทางโทรศัพท์นี้เองได้เป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างสองบริษัท ถึงปัจจุบันหวงเหรินซวินและมอริส จางยังเป็นเพื่อนที่รักใคร่สนิทกันมาก ในเดือนพ.ค.ปี 2024 หวงเหรินซวินกลับมาที่ไต้หวันสร้างปรากฏการณ์ราวลมบ้าหมูพัดกระหน่ำอีก และยังพาผู้เฒ่าจางในวัย 92 ไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืน!

เจนเซน หวง กับ ประธานบริษัท AMD ลิซ่า ซู เป็นญาติห่างๆกัน
8) หวงเหรินซวิน และ “ลิซ่า ซู” เป็นญาติห่างๆกัน

ซูจือเฟิง (蘇姿丰) หรือ ลิซ่า ซู (Lisa Su) ประธานบริษัท Advanced Micro Devices (AMD) เป็นคนเมืองไถหนันเช่นเดียวกัน และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกระดับแนวหน้าในวงการเทคโนโลยีอเมริกา! หวงเหรินซวิน ไม่เพียงแค่เคยทำงานที่ AMD เขาและลิซ่า ซู ยังมีความสัมพันธ์เป็นญาติห่างๆกันอีกด้วย คุณตาของลิซ่า ซู กับแม่ของหวงเหรินซวิน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ดังนั้น ลิซ่า ซู จึงเป็นญาติห่างๆโดยมีศักดิ์เป็นหลานของหวงเหรินซวิน


9) ลูกชายของหวงเหรินซวินเปิดบาร์ที่ไต้หวัน

ลูกชายของหวงเหรินซวิน คือหวงเซิงปิน (黃勝斌/Spencer Huang)เปิดบาร์ R&D Cocktail Lab ที่เขตซินอี้ ไต้หวันในปี 2015 ต่อมา R&D Cocktail Lab เป็น 1 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดของเอเชีย จากการอันดับของนิตยสาร ฟอร์บ (Forbes) หลังจากที่หวงเซิงปินทำกิจการบาร์นี้ได้ 7 ปี ก็โอนกิจการให้กับบริษัทอื่น ขณะนี้หวงเซิงปินเป็นผู้จัดผลิตภัณฑ์อาวุโสในบริษัทของพ่อ ลูกสาวของหวงเหรินซวินคือ หวงหมิ่นซัน (黃敏珊 /Madison Huang) เคยทำงานที่โรงแรม ปัจจุบันกลับมาทำงานที่ Nvidia เป็นผู้จัดการการตลาดให้กับแพลตฟอร์มพัฒนาซอฟท์แวร์ NVIDIA Omniverse ดูไปแล้วพ่อและลูกๆทำงานใกล้ชิดด้วยกัน ทายาทสืบทอดกิจการ Nvidiaในอนาคตจะเป็นใครจากไหนไปได้!

Spencer Huang และ Madison Huang ลูกชายและลูกสาวของ เจนเซน หวง
10) หวงเหรินซวินเป็นกลุ่มคนรักหมาสุดติ่ง

หวงเหรินซวินเปิดเผยในการสัมภาษณ์กับสื่อไต้หวัน ว่า แต่เดิมนั้นเขาจะตื่นตอนตีห้า แต่ต้องเปลี่ยนแปลงกิจวัตรนี้ก็เพราะรักหมา “ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมไม่สนว่าจะทำให้ใครตื่น แต่จะรู้สึกผิดถ้าทำให้หมาตื่น และรู้สึกไม่สบายใจ” เขาไม่อยากลงจากเตียงมาเดินๆในห้องทำให้มีเสียงใดๆ จึงได้แต่นั่งอยู่บนเตียงอ่านหนังสือเงียบๆ และเปลี่ยนเวลาลุกจากเตียงมาเป็นตอน 6 โมงเช้า”


หวงเหรินซวินยังได้รณรงค์วัฒนธรรมพาสุนัขไปทำงาน ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อค่าย Yahoo Finance ครั้งหนึ่ง เผยว่า Nvidia สนับสนุนให้พนักงานพาลูกๆ (สุนัข) ไปทำงาน เขากล่าวว่า “ถ้าคุณจะเป็นพ่อหมาแม่หมาที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่งแล้วละก็ วิธีหนึ่งคืออยู่กับเขา...เป็นเพื่อนพวกเขา ผมขอพูดจากมุมมองของพวกหมาน้อย นี่คือวิธีการที่ถูกต้อง


Nvidia เป็นสำนักงานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในซิลิคอน วัลเลย์ เหล่าสุนัขสามารถวิ่งเล่นบนสนามหญ้าอย่างมีความสุข เหตุการณ์ที่พวกสุนัขกัดกันพบเห็นได้ยาก ส่วนใหญ่พวกเขาจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่อย่างรวดเร็ว

* เจนเซน หวง รักการเดินเที่ยวซื้อของกินในตลาดกลางคืนมาก และกลายเป็นเสน่ห์ของมหาเศรษฐีหนุ่มที่ผู้คนมักกล่าวขวัญถึง โดยเฉพาะเมื่อเขามาไต้หวัน จะต้องไปเที่ยวตลาดกลางคืนทุกครั้ง และผู้คนจะกรูเข้ามารุมล้อมเบียดเสียดกันดั่งสำนวนที่ว่า “อัดแน่ชนิดน้ำแทบซึมเข้ามาไม่ได้” ในปี 2024 หวงพายังพากัลยาณมิตรต่างวัย มอริส จางในวัย 92 ผู้ก่อตั้ง TSMC ไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืน!

(คลิปบรรยากาศ เจนเซน หวง เดินเที่ยวตลาดกลางคืนในไต้หวัน)





เรื่องเล็กๆที่น่ารัก ครั้งหนึ่ง เจนเซน หวง เดินไปตามถนนในไต้หวัน และพบสาวสองคน กำลังร้องเพลงไลฟ์สด เขาเข้าไปขอร่วมรายการไลฟ์สดโดยที่สองสาวไม่รู้ว่า “เจนเซน หวง” เป็นใคร




กำลังโหลดความคิดเห็น