จีนอนุญาตให้พลเมืองของบราซิล อาร์เจนตินา ชิลี เปรู และอุรุกวัยเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีวีซ่านาน 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 โดยโครงการทดลองนี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปีจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2569
“เรายินดีต้อนรับเพื่อนชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนจีนกันมากขึ้น เพื่อสัมผัสกับประเทศจีนที่มีสีสันและชีวิตชีวา” นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันพฤหัสฯ ( 15 พ.ค. )
ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฟอรั่มระดับรัฐมนตรีระหว่างจีนกับประชาคมแห่งลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ( China-CELAC) เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เพื่อเสริมสร้างพันธมิตรในภูมิภาคดังกล่าวอันเป็นการถ่วงดุลอิทธิพลของสหรัฐอเมริกา โดยในระหว่างการประชุมจีนได้ประกาศนโยบายยกเว้นวีซ่ากับ 5 ชาติดังกล่าวและจะขยายให้ครอบคลุมชาติอื่นๆ ในภูมิภาคนี้มากขึ้นในเวลาอันสมควร
หลังจากยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 แพร่ระบาดที่เข้มงวด จีนได้อนุญาตให้พลเมืองหลายสิบชาติเดินทางเข้าจีนได้โดยไม่มีวีซ่า ซึ่งรวมถึงชาติยุโรปส่วนใหญ่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์และมาเลเซีย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจีนและอุซเบกิสถานยังจะอนุญาตให้พลเมืองสองฝ่ายเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไปอีกด้วย
นายซุน เยี่ยนเฟิง ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยเกี่ยวกับลาตินอเมริกาของสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยแห่งจีน ( CICIR) ระบุว่า ชาติทั้งห้านี้มีเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค นโยบายยกเว้นวีซ่าเป็นการเน้นย้ำว่าจีนให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับชาติเหล่านี้ นโยบายยกเว้นวีซ่านอกจากจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในลาตินอเมริกาและแคริบเบียนเข้ามาขยายตลาดในจีนได้สะดวกขึ้น
ทั้งนี้ การค้าระหว่างจีนกับชาติในลาตินอเมริกาและแคริบเบียนพุ่งสูงกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าช่วงต้นศตวรรษนี้ถึง 40 เท่าตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวเมื่อเดือนพฤษภาคม
ขณะที่กระแสเที่ยวจีนของนักท่องเที่ยวจาก 5 ชาติเหล่านี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยยอดจองตั๋วเครื่องบินบนแพลตฟอร์มของ Quna บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ของจีนในช่วงวันหยุดวันแรงงานปีนี้ (1-5 พฤษภาคม)โตร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ที่มา : โกลบอลไทมส์/เอพี