เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งเผชิญพายุฤดูร้อนรุนแรงในหลายเขต มีลมกระโชกแรงระดับ 8 และเกิดลูกเห็บตกอย่างหนัก โดยบางพื้นที่มีขนาดลูกเห็บใหญ่ถึง 4 เซนติเมตร หรือเท่าไข่ไก่
ลูกเห็บขนาดใหญ่ตกกระทบพื้นถนนและพังสิ่งของจำนวนมาก บางลูกใหญ่กว่าเชอร์รี่เกรดพรีเมียมแบบ 5J ที่ขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ต รถยนต์ในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นหลังคายุบ กระจกหน้ารถแตกร้าว เป็นรอยบุบทั่วทั้งคัน โดยเฉพาะรถที่จอดไว้กลางแจ้ง
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนระบุว่า การเกิดลูกเห็บในปักกิ่งครั้งนี้เป็นผลจากสภาพอากาศแบบ “ข้างล่างร้อน ข้างบนเย็น” ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูเปลี่ยนผ่านระหว่างฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม–มิถุนายน
วันที่ 13 พฤษภาคมนั้น อุณหภูมิของปักกิ่งพุ่งสูงถึง 32.3 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าสูงที่สุดของปีนี้ ส่งผลให้เกิดกระแสลมยกตัวขึ้นจากพื้นดินอย่างรุนแรง เมื่อกระแสลมร้อนพุ่งขึ้นไปชนกับอากาศเย็นในชั้นบนของบรรยากาศ ก็เกิดเป็นกลุ่มเมฆคิวมูโลนิมบัส ซึ่งเหมาะสมต่อการก่อตัวของลูกเห็บ ทั้งจากแรงลม การควบแน่นของไอน้ำ และอุณหภูมิที่ต่างกันมากในแนวตั้ง
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาปักกิ่งออกคำเตือนระดับสี 3 ประเภทพร้อมกันในช่วงค่ำของวันที่ 13 พฤษภาคม ได้แก่ คำเตือนฟ้าผ่าสีเหลือง คำเตือนลมแรงสีน้ำเงิน คำเตือนลูกเห็บสีเหลือง (ซึ่งระบุพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบโดยเฉพาะ)
ประชาชนได้รับคำเตือนให้ระวังลูกเห็บและฟ้าผ่าในช่วงค่ำ รวมทั้งให้รีบจัดเก็บสิ่งของที่อยู่กลางแจ้ง เช่น กระถางต้นไม้ รถยนต์ หรือผ้าใบคลุมสิ่งของที่อาจถูกลูกเห็บกระแทกเสียหาย
ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนของทุกปี พื้นที่กรุงปักกิ่งจะมีโอกาสเกิดลูกเห็บสูง เนื่องจากสภาพพื้นดินอุ่นขึ้น ขณะที่อากาศชั้นบนยังมีความเย็น ทำให้เกิดการปะทะของอากาศอย่างรุนแรง
ที่มา 中国新闻网 / 快科技
