เจรจาเจนีวาสำเร็จ! จีน–สหรัฐฯ หันหน้าลดภาษี ตั้งกลไกคุยเศรษฐกิจทวิภาคี

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้เผยแพร่แถลงการณ์ร่วมอย่างเป็นทางการแล้ว

แถลงการณ์ร่วมฯ ระบุว่า รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน และรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เห็นพ้องร่วมกันว่า ทั้งสองประเทศตระหนักถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และเห็นตรงกันว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ยั่งยืน และได้ประโยชน์ร่วมกันจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจโลก

แถลงการณ์ระบุว่า จากการหารืออย่างต่อเนื่องระหว่างสองฝ่าย ทั้งสองประเทศมีความเชื่อมั่นว่าการเจรจาและความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ความเปิดกว้าง และความร่วมมือ จะช่วยคลี่คลายข้อขัดแย้งทางการค้า และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ทั้งสองประเทศให้คำมั่นที่จะดำเนินมาตรการสำคัญก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ดังนี้:


สหรัฐอเมริกาจะระงับการเก็บภาษีในอัตรา 24% ที่ประกาศตามคำสั่งฝ่ายบริหารเลขที่ 14257 ลงวันที่ 2 เมษายน 2568 เป็นเวลา 90 วัน โดยยังคงเก็บภาษีในอัตรา 10% ไว้ตามเดิม และยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารที่ 14259 (ลงวันที่ 8 เมษายน) และ 14266 (ลงวันที่ 9 เมษายน) ที่เคยกำหนดการเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้าจีน (รวมถึงสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และมาเก๊า)


ในขณะที่จีนจะระงับการเก็บภาษีในอัตรา 24% ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการภาษีศุลกากร หมายเลข 4 ปี 2568 เป็นเวลา 90 วัน โดยคงการเก็บภาษีที่ 10% เอาไว้ และยกเลิกการเก็บภาษีที่ประกาศไว้ในประกาศหมายเลข 5 และ 6 และระงับหรือยกเลิกมาตรการตอบโต้ที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2568


จีนและสหรัฐฯ จะจัดตั้งกลไกหารือระยะยาว เพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการประชุมเป็นระยะ ทั้งในจีน สหรัฐฯ หรือประเทศที่สามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ

ตัวแทนของจีนคือ เหอ ลี่เฟิง (He Lifeng) รองนายกรัฐมนตรีของจีน ส่วนตัวแทนของสหรัฐฯ คือ สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ เจมีสัน เกรียร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ทั้งสามจะเป็นผู้นำการหารือระดับสูงต่อไป

ข้อตกลงลดภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ถือเป็นพัฒนาการเชิงบวกในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ ซึ่งเผชิญกับความตึงเครียดและมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจต่อเนื่องมาหลายปี ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ การจัดตั้งกลไกหารือถาวรยังส่งสัญญาณว่า ทั้งสองฝ่ายมีความตั้งใจจะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางการค้าในอนาคต

สหรัฐฯและจีน ตกลงหั่นภาษีสินค้านำเข้าซึ่งกันและกัน กว่า100 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ กล่าวโดยสรุปอ้างอิงจากคำยืนยันของรัฐมนตรีว่าการคลังแห่งสหรัฐฯ นาย สก็อตต์ เบสเซนต์ ระบุว่า สหรัฐฯและจีนบรรลุข้อตกลงระงับ (ชั่วคราว) การขึ้นภาษีการค้าเป็นเวลา 90 วัน โดยทั้งสองชาติตกลงลดภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันลงร้อยละ115

โดยสหรัฐฯตกลงลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จากอัตราร้อยละ145 เหลือร้อยละ30 ในช่วง 90 วัน  ขณะที่ฝ่ายจีนตกลงลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จากร้อยละ125 มาเป็นร้อยละ10 ในช่วงเวลาที่กำหนด

ข้อตกลงดังกล่าวข่างต้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่14 พ.ค.เป็นต้นไป เป็นเวลา 90 วัน

ที่มา สำนักข่าวซินหัว / กระทรวงการต่างประเทศจีน/ เอเจนซีข่าว