ฝ้ายของสหรัฐอเมริกาดูเหมือนพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งตัวฉกาจ สะท้อนให้เห็นได้จากรายงานของสำนักงานบริการด้านการเกษตรต่างประเทศ (FAS) กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
จีนเคยเป็นชาติผู้ซื้อฝ้ายสหรัฐฯมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง แต่มาวันนี้มิใช่อีกต่อไป โดยรายงานของ FAS ระบุว่า สหรัฐฯ ส่งออกฝ้ายไปยังจีนลดลง 73 % เหลือ 151,000 ตัน ในช่วง 7 เดือนระหว่างเดือนสิงหาคม 2567 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของสหรัฐฯ จากที่มีอยู่ 29.6 % เหลือเพียง17.1 % เท่านั้น โดยปัจจุบันจีนเป็นผู้ซื้ออันดับ 4 รองจากปากีสถาน เวียดนาม และตุรกี
ความรู้สึกต่อต้านอเมริกาในท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการค้าอันย่ำแย่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของสหรัฐฯลดฮวบ แต่อีกสาเหตุที่สำคัญกว่านั้นตามข้อมูลของ FAS ก็คือ “สภาพอากาศอันยอดเยี่ยม” ส่งผลให้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างล้นหลามในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ โดยฝ้ายในจีนทั้งหมดมาจากการเก็บเกี่ยวที่นี่ถึง 92.3 %ในปีการตลาดนี้ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 90.9 %ในปีการตลาดที่แล้ว
นอกจากนั้น ถึงแม้สหรัฐฯ ได้จำกัดการนำเข้าสินค้าที่มีแหล่งผลิตในภูมิภาคซินเจียง โดยอาศัยกฎหมายป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ ( Uyghur Forced Labor Prevention Act) ประกอบกับกระแสต่อต้านจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการปราบปรามชาวมุสลิมในภูมิภาคแห่งนี้ แต่การผลิตฝ้ายในซินเจียงกลับเพิ่มขึ้น10.8 % และการค้าเพิ่มขึ้นเกือบ100 % ณ สิ้นเดือนมีนาคม
“ผลผลิตที่สูงกว่าของซินเจียงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศแสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่ได้เปรียบของภูมิภาค ธุรกิจการเกษตรขนาดใหญ่ และอัตราการใช้เครื่องจักรที่สูง”
“จีนยังคงลงทุนด้านการวิจัยและการปรับปรุงพันธุ์ฝ้าย นอกจากนั้น ยังเอ่ยถึงการปรับปรุงคุณภาพฝ้ายเป็นเป้าหมายหนึ่งในเอกสารฉบับที่หนึ่งประจำปี 2025 (2025 Number One Document) ” FAS ระบุ
ตามรายงานของFAS จีนมีเป้าหมายพัฒนาซินเจียงให้กลายเป็นศูนย์กลางสิ่งทอระดับโลก นอกจากนั้น การประชุมกลุ่มผู้นำการพัฒนาอุตสาหกรรมฝ้ายซินเจียงเมื่อเร็วๆ นี้ยังเน้นย้ำถึงการเร่งสร้างศูนย์กลางการค้าฝ้ายและเส้นด้ายฝ้ายของจีน การพัฒนาระบบการรับรองแบรนด์สาธารณะ “ฝ้ายซินเจียง” (Xinjiang Cotton) และขยายตลาดส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลางและยุโรปตะวันออกภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ในขณะที่ฝ้ายสหรัฐฯ ยังเผชิญกับอุปสรรคอีกประการหนึ่ง คือการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากออสเตรเลีย ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดจีนร้อยละ 26.1 และบราซิลร้อยละ 45 ในปีการตลาดล่าสุด
การรีดภาษีนำเข้า145% ของสหรัฐฯ จะลดการส่งออกสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปของจีน แต่รายงานของFAS ก็คาดการณ์ด้วยว่าภาษีนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐฯ ที่สูงถึง 140 %ของจีนจะ "ทำให้การนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐฯ หยุดชะงักลงเกือบทั้งหมด"
เซิง ลู่ อาจารย์สาขาวิชาการศึกษาด้านแฟชั่นและเครื่องแต่งกายของมหาวิทยาลัยเดลาแวร์เตือนว่า หากชาติทั้งสองไม่ผ่อนปรนการตอบโต้กันอย่างดุเดือด การต่อสู้ที่มีเดิมพันสูงอยู่แล้วระหว่างฝ้ายของสหรัฐฯ กับฝ้ายซินเจียงจะยิ่งทวีความรุนแรง และอาจลุกลามไปยังตลาดในประเทศที่สาม ซึ่งผู้ผลิตเสื้อผ้าจีนหันไปส่งออกแทนตลาดสหรัฐฯ แทนได้
ข้อมูลจาก “ U.S. and Xinjiang Cotton Are Locked in a Trade War of Their Own” ใน Sourcing Journal