ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ข่าวใหญ่บนเวทีเศรษฐกิจการเมืองโลก นอกจากสงครามการค้าที่ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดฉากจู่โจมสนั่นหวั่นไหวไปทั่วโลก ในสนามสู้รบด้วยอาวุธในฝั่งโลกตะวันออก ก็มีข่าวสำคัญและน่าสนใจยิ่ง คือ กรณีจีนส่งคณะทำงานตรวจสอบและดูแลหยุดยิงระหว่างกองทัพรัฐบาลพม่าและกองทัพโกก้าง (MNDAA) พร้อมกับเป็นสักขีพยานในการส่งมอบเมืองล่าเสี้ยว
ทั้งนี้การที่กองทัพโกก้างเข้ายึดครองเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐฉานภาคเหนือ เป็นอุปสรรคการค้าระหว่างจีนกับพม่าผ่านโครงข่ายคมนาคมตามข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI) เนื่องจากเมืองล่าเสี้ยวตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 3 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า
เสียงปืนในเมืองล่าเสี้ยว ที่ดังเปรียงปร้างทุกวันในก่อนหน้านั้น เงียบลงในทันใด โลกหันมาจับตามองคณะทำงานดูแลการหยุดยิงของจีนที่ตบเท้าไปยังเมืองชายแดนพม่า ซึ่งนับเป็นการส่งคณะทำงานดูแลการหยุดยิงในเขตสู้รบต่างประเทศครั้งแรกของจีน ในชั่วเวลาเวลาเพียงแค่ 48 ชั่วโมง เมืองล่าเสี้ยวที่ถูกกลุ่มชาติพันธุ์ยึดครอง ก็ถูกส่งมอบให้รัฐบาลพม่า
เบื้องหลังของ “มหัศจรรย์การทูต” นี้ คืออะไร?
ในการแถลงการณ์การส่งคณะทำงานตรวจสอบและดูแลการหยุดยิงเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2568 โฆษกกระทรวงต่างประเทศประกาศว่า จีนได้ส่งคณะทำงานตรวจสอบและดูแลการหยุดยิงตามคำเชิญของรัฐบาลเมียนมาและกองทัพโกก้าง ไปยังเมืองล่าเสี้ยวซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ชายแดนห่างจากจีนราว 100 กิโลเมตร โดยภารกิจของคณะทำงานฯนี้ คือ ดูแลการหยุดยิงระหว่างกองทัพรัฐบาลเมียนมาและกองทัพพันธมิตรของโกก้าง และเป็นสักขีพยานในการส่งมอบอำนาจควบคุมพื้นที่เมืองล่าเสี้ยว ไม่ถึง 24 ชั่วโมง กองทัพโกก้างก็สลายตัวออกจากเมืองล่าเสี้ยว กองทัพรัฐบาลเมียนมา 2,000 นาย เข้ามารับมอบการดูแลเขตเมือง กระบวนการทั้งหมดเป็นไปโดยไม่มีการยิงปืนปะทะกันแม้แต่นัดเดียว สื่อต่างประเทศกลึ่มหนึ่ง จึงเรียกขานเป็น “มหัศจรรย์การทูตแห่งโลกตะวันออก”
เผยเบื้องลึก ไพ่ตัวกินใบสำคัญสามใบ ที่จีนใช้ในการบรรลุการเจรจาหยุดยิง
1. เศรษฐกิจแลกสันติภาพ การสู้รบในพม่าตอนเหนือซึ่งเป็นเขตควบคุมของกลุ่มชาติพันธุ์ ร้อนแรงขึ้นจากปี 2023 จีนเข้ามาเสนอ “การเจรจาคุนหมิง” หว่านล้อมให้หลายฝ่ายมาเจรจากัน ถึง 7 ครั้ง โดยใช้เส้นทางรถไฟจีน-พม่า ท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ เป็นเดิมพัน จนกรทั่งคู่ปฏิปักษ์สงครามบรรลุฉันทามติกัน
2. ห้ามล้ำเส้นแดงความปลอดภัย เดือนมีนาคม 2568 เครื่องบินโจมตีของกองทัพพม่า รุกล้ำเส้นแดง กองทัพจีนเงื้อมไม้แข็ง “ถ้าล้ำเส้นแดงอีก...เจอดีแน่!” บีบให้ฝ่ายรัฐบาลพม่ายอมรับปฏิบัติการลาดตระเวนร่วม ส่วนการส่งคณะทำงานตรวจสอบดูแลการหยุดยิงในเมืองล่าเสี้ยวนี้ ถือเป็นการใช้ “ไม้อ่อน” สรุปแล้ว ฝ่ายจีนใช้ทั้ง ”กลยุทธ์ไม้แข็งไม้อ่อน“ ในการจัดการห้ามศึกนี้
3. การส่งคณะทำงานตรวจสอบการหยุดยิงของฝ่ายที่สาม (จีน) เพื่อฝ่าทางตันในการแก้ไขปัญหา เป็นรูปแบบที่แตกต่างจากชาติตะวันตก ซึ่งใช้การแทรกแซงแบบบีบบังคับ คณะทำงานฯจีนไม่ติดอาวุธ เพียงใช้ความน่าเชื่อถือทางการทูตเป็นสักขีพยานในการส่งมอบเมือง ถือเป็นการริเริ่มรูปแบบใหม่ของการเจรจาหยุดยิง
หลักไมล์สำคัญจากการสู้รบถึงการจับมือกัน
• เดือน ม.ค. 2567 เปิดการเจรจาคุนหมิงและประสบความสำเร็จในการผลักดันให้กองทัพพม่าและกลุ่มสามพันธมิตรภราดรภาพ ซึ่งเป็นองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์สามกลุ่มในเขตชายแดนพม่า ลงนามข้อตกลงหยุดยิง
• เดือน ม.ค. 2568 แถลงการณ์ร่วมพม่า-จีน ประกาศการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง
• เดือน เม.ย. 2568 ภารกิจตรวจสอบดูแลการหยุดยิงบรรลุผล 100 เปอร์เซ็นต์ และเป็นแบบอย่างให้กลุ่มชาติพันธุ์ว้า และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆในพม่า หันมาเจรจาสันติภาพกัน
ยุทธศาสตร์ของจีนที่เรียกขานว่า “การเข้าไปร่วมเป็นตัวกลางเพื่อบรรลุเป้าหมาย” ได้แก่ การใช้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจแทนที่วิธีการใช้การทหารกดดัน , ใช้การเจรจาอย่างสันติแทนที่การแทรกแซงทางการเมือง จีนเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการคลี่คลายความขัดแย้ง และหลีกเลี่ยงการถูกตีตราว่าจีนเป็นพวก “ลัทธิอาณานิคมใหม่” โดยพยายามที่จะใช้โครงการสาธารณูปโภคเพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เช่น การสร้างโรงพยาบาล การสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นการขยายผลจาก “หยุดการสู้รบ” สู่การ “กำกับดูแลการสู้รบ”
การเจรจาหยุดยิงในพม่านี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น จีนจะใช้ประสบการณ์ในการยุติความขัดแย้งในเมียนมาตอนเหนือนี้ไปใช้ในการคลี่คลายความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ เอเชียกลาง และเขตอื่นๆ โดยใช้การเจรจาหลายฝ่ายมาคลี่คลายความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในประวัติศาสตร์ หากรูปแบบการแก้ไขความขัดแย้งนี้สำเร็จ เอเชียก็จะเป็นแหล่งกำเนิดของระบบความร่วมมือสร้างสันติภาพ ที่จะลบล้าง "ระบบสร้างสันติภาพที่มีชาติตะวันตกเป็นศูนย์กลาง" ขณะที่กลุ่มสื่อตะวันตกยังวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาว่า ความสงบปลอดเสียงปืนในเมืองล่าเสี้ยวได้ให้คำตอบแล้ว จากสนามรบที่ร้อนระอุด้วยไฟแห่งการสู่รบเข่นฆ่า สู่ความร่วมมือแบบสมประโยชน์กัน (วิน-วิน ) จีนได้พิสูจน์ถึงความรับผิดชอบในฐานะประเทศใหญ่ ที่ไม่ต้องใช้กระสุนปืนเปิดทาง...