สำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐ (CIA) ปล่อยคลิปวิดีโอใหม่ 2 ชิ้นบนโซเชียลมีเดีย โดยมุ่งเป้าในการชักจูงเจ้าหน้าที่จีนมาเป็นสายลับ ด้วยเนื้อหาสไตล์หนังดราม่าที่สะท้อนความไม่พอใจในระบบการทำงานของรัฐบาลจีน และความหวาดกลัวต่อการปราบปรามคอร์รัปชันของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ในคลิปวิดีโอได้สร้างเรื่องราวที่กระตุ้นความหวาดกลัว ความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตของตัวเองและครอบครัว...
เคสแรก...เป็นเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์ที่รู้สึกไม่มั่นคงจากการที่เพื่อนร่วมงานระดับสูงทยอยถูกจับกุมจากคดีคอร์รัปชัน เขาเริ่มวางแผนหลบหนีเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว โดยในคลิปมีฉากที่เขาและภรรยาเดินเข้าร่วมงานเลี้ยงสุดหรู ขณะถูกเจ้าหน้าที่รัฐสะกดรอยตาม พร้อมบรรยายว่า “ผมเห็นคนข้างบนถูกโยนทิ้งเหมือนรองเท้าเก่า ผมรู้ว่าผมก็มีชะตาแบบเดียวกัน… ผมต้องหาทางหนีให้ครอบครัว”
อีกเคสหนึ่งมุ่งเสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในจีน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่รู้สึกหมดไฟจากระบบราชการแบบอิงเส้นสาย เศรษฐกิจที่ชะลอตัว และช่องว่างทางชนชั้น คลิปนำเสนอเรื่องราวชีวิตของหนุ่มจีนคนหนึ่งที่ทำงานหนัก แต่ยังต้องอยู่กับพ่อแม่ในห้องแคบๆ กินอาหารกล่องราคาถูก และต้องเข้าร่วมกิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์ “วิจารณ์ตนเอง” ในที่ทำงาน ขณะเจ้านายของเขาใช้ชีวิตหรูหราด้วยนาฬิกาหรูและสูทสั่งตัด
หนุ่มจีนกล่าวในวิดีโอว่า “ตั้งแต่เด็ก พรรคสอนเราว่าถ้าขยันทำตามเส้นทางที่ผู้นำวางไว้ เราจะมีอนาคตสดใส… แต่ฟ้ากลับเป็นของคนบางกลุ่มเท่านั้น” ก่อนจะยืนยันว่าเขาจะ “ไม่ยอมใช้ชีวิตแบบคนที่นอนราบ” (ศัพท์จีน "lie flat" หรือ 躺平 เป็นสำนวนที่สื่อถึงการยอมแพ้ต่อระบบ ไม่ดิ้นรนต่อสู้ ไม่ทำอะไร อยู่ไปวันๆ)
เรื่องราวในวิดีโอทั้งสองจบลงด้วยภาพตัวเอกติดต่อไปยังเว็บไซต์ของซีไอเอ โดยเจ้าหน้าที่พรรคฯ ได้รับความมั่นใจว่าอย่างน้อยครอบครัวจะมีชีวิตที่ดีในอนาคต ส่วนหนุ่มเจ้าหน้าที่รัฐระดับล่างก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน หลิน เจี้ยน แถลงเตือนความเคลื่อนไหวของซีไอเอ ว่า จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นในการปราบปราม “กิจกรรมแทรกซึมและบ่อนทำลายของกลุ่มต่อต้านจีนจากต่างประเทศ”
“สหรัฐฯไม่เพียงใช้วิชามารใส่ร้ายป้ายสี โจมตีจีน ยังใช้เล่ห์กล ล่อหลอกให้ชาวจีนไปเข้าพวกทำงานให้ โดยพุ่งเป้าตรงมาที่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลจีน” หลิน เจี้ยน กล่าวระหว่างการแถลงในที่ประชุมข่าวประจำวันในวันอังคาร (6 พ.ค.)
ด้านโซเชียลมีเดียของจีนมีการพูดถึงคลิปวิดีโอสั้นนี้ในวงจำกัด โดยมีบางโพสต์แชร์ภาพจากวิดีโอและวิจารณ์เนื้อหาอย่างรุนแรงว่า “ไร้สาระ” และ “เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาแอบแฝง”
เจ้าหน้าที่ซีไอเอกล่าวกับรอยเตอร์ว่า วิดีโอเหล่านี้สามารถเจาะทะลุกำแพงการเซ็นเซอร์ของจีนได้สำเร็จ และเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงยังคงผลิตวิดีโอลักษณะนี้ต่อไป พร้อมย้ำว่า “จีนคือเป้าหมายอันดับหนึ่งของซีไอเอในการแข่งขันระยะยาว”
ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา จีนได้ยกระดับบทบาทของหน่วยงานข่าวกรองของตนเอง ด้วยการสื่อสารต่อสาธารณะแบบไม่ปิดบัง มีการเผยแพร่บทความ คลิปวิดีโอ และแม้แต่การ์ตูน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนระวังภัยจากการจารกรรม
เมื่อปีที่แล้ว อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ บิล เบิร์นส์ เผยในบทความของนิตยสาร Foreign Affairs ว่าหน่วยงานของเขาได้เพิ่มงบประมาณและทรัพยากรในการสอดแนมจีน รวมถึงสรรหาผู้เชี่ยวชาญภาษาจีนเพิ่มเติม โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ตอบโต้เชิงประชดว่า “ขอบคุณที่เตือนให้เราระวังว่าหน่วยข่าวกรองอเมริกันแฝงตัวอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
ที่มาข่าว สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น และเอเจนซีข่าว