xs
xsm
sm
md
lg

จีนปฏิเสธข่าวลือเจรจาภาษีกับสหรัฐ ขณะที่ 12 รัฐในอเมริกาเดินหน้ายื่นฟ้องต้านนโยบายภาษีทรัมป์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จีนออกมาปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าไม่ได้มีการเจรจาหรือหารือกับสหรัฐอเมริกาในประเด็นภาษีการค้า โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กัว เจียคุน (Guo Jiakun) ยืนยันในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "ไม่มีการเจรจา ไม่มีการปรึกษาหารือ และยิ่งไม่ใช่มีข้อตกลงใด ๆ ในเรื่องภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐ"

กัวกล่าวว่า “สงครามภาษีนี้เป็นสิ่งที่สหรัฐเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” พร้อมระบุจุดยืนของจีนว่า หากจำเป็นก็พร้อมสู้ แต่หากจะเจรจา ประตูของจีนก็เปิดอยู่เสมอ ภายใต้หลักการแห่งความเท่าเทียม ความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน

ก่อนหน้านี้ สื่อในสหรัฐรายงานว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมากกว่า 50% เพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ เลวิตต์ (Karoline Leavitt) และรัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) ออกมาแถลงย้ำว่า รัฐบาลไม่มีแผนลดภาษีฝ่ายเดียว

ท่าทีที่ไม่สอดคล้องกันนี้ทำให้เกิดความสับสนในตลาดการเงิน โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐร่วงลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่นักลงทุนแห่เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินเยน ทองคำ และฟรังก์สวิส

กาว หลิงยวิ่น (Gao Lingyun) นักวิจัยจาก Chinese Academy of Social Sciences วิเคราะห์ว่า สัญญาณขัดแย้งภายในรัฐบาลสหรัฐสะท้อนถึงการขาดเอกภาพทางนโยบาย และแสดงให้เห็นว่าผลกระทบของมาตรการภาษีอาจรุนแรงกว่าที่คาดไว้ ทั้งในภาคธุรกิจและตลาดทุน

ขณะเดียวกัน เสียงคัดค้านนโยบายภาษีก็กำลังเพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐ เมื่อผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Doug McMillon จาก Walmart, Brian Cornell จาก Target และ Ted Decker จาก Home Depot เดินทางเข้าพบประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาว เพื่อแสดงความกังวลว่า นโยบายภาษีอาจส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูง และทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก โดยบางคนเตือนว่า “ชั้นวางสินค้าทั่วอเมริกาอาจว่างเปล่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”


รายงานจาก Forbes ยังเปิดเผยว่า การเพิ่มภาษีอาจทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันเสียกำลังซื้อรวมสูงถึง 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท) เฉพาะใน 6 หมวดหมู่สินค้าหลัก

สถานการณ์บานปลายถึงขั้นที่ 12 รัฐของสหรัฐ รวมถึงโอเรกอน อริโซนา โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ อิลลินอยส์ เมน มินนิโซตา เนวาดา นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก และเวอร์มอนต์ ยื่นฟ้องต่อศาลการค้าระหว่างประเทศในนิวยอร์กเมื่อวันพุธ โดยอ้างว่าประธานาธิบดีไม่มีอำนาจโดยตรงในการกำหนดภาษีตามรัฐธรรมนูญ และมาตรการดังกล่าวละเมิดกฎหมาย WTO

นอกจากนี้ ยังมีคดีฟ้องร้องอีกคดีที่ยื่นโดยรัฐแคลิฟอร์เนีย สมาชิกชนเผ่า Blackfeet ในรัฐมอนแทนา บริษัทผลิตกระดาษในฟลอริดา และบริษัทของเล่นเพื่อการศึกษาที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

เหอ เว่ยเหวิน (He Weiwen) นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์เพื่อโลกาภิวัตน์ของจีน กล่าวกับ Global Times ว่า “คำฟ้องที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากการใช้ภาษีของสหรัฐไม่มีฐานทางกฎหมาย และยังละเมิดกฎ WTO อีกด้วย”

ขณะที่ ฮั่ว เจี้ยนกั๋ว (Huo Jianguo) รองประธานสมาคมศึกษาว่าด้วยองค์การการค้าโลกแห่งจีน ระบุว่า “แม้สหรัฐจะส่งสัญญาณหลากหลาย แต่จีนเข้าใจดีว่าเป้าหมายของสหรัฐในการจำกัดและควบคุมจีนยังไม่เปลี่ยนแปลง และจะไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้”

เขาย้ำว่า หากสหรัฐต้องการกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างจริงใจ จะต้องยุติการกดดันด้วยวิธีสุดโต่ง หยุดข่มขู่ และเคารพในหลักการเจรจาอย่างเสมอภาค

ที่มา: Global Times, Bloomberg, Reuters, Forbes, Associated Press, CNN


กำลังโหลดความคิดเห็น