คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศรายการข้อจำกัดและข้อห้าม (negative list) สำหรับการเข้าตลาดจีนฉบับปี 2568 เมื่อวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) โดยมีการปรับลดข้อห้ามจาก 117 รายการในปี 2565 เหลือ 106 รายการ
การปรับเปลี่ยนครั้งล่าสุดได้ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าตลาดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภทลงอย่างมาก โดยมีการบูรณาการร่วมกับกฎระเบียบในการเข้าตลาดจีนอื่นๆ มากกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจการแกะตราประทับให้เปลี่ยนมาใช้ระบบการจัดเก็บเอกสารเพื่อแสดงหลักฐานในการขอเข้าตลาดจากเดิมที่ต้องขอใบอนุญาต หรือการจำหน่ายผลิตภัณฑ์การรักษาความปลอดภัยของระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันให้ยึดตามกฎเกณฑ์การทดสอบและการรับรองตามมาตรฐานแห่งชาติที่บังคับใช้
นอกจากนั้น มีการผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงบริการโทรคมนาคมใหม่ การผลิตละครโทรทัศน์ การจัดจำหน่ายยา และการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ไม้ป่า
อย่างไรก็ตาม มีการใส่รายการต้องห้ามใหม่ได้แก่ธุรกิจเกิดใหม่ เช่น การดำเนินงานอากาศยานไร้คนขับ การผลิต การค้าส่งและการค้าปลีกผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า
ในส่วนนักลงทุนต่างชาติยังต้องปฏิบัติตาม “มาตรการบริหารพิเศษ (บัญชีข้อห้าม) สำหรับการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ” หรือ"Special Administrative Measures (Negative List) for Foreign Investment Access," และผู้ให้บริการต่างชาติซึ่งเสนอการให้บริการข้ามพรมแดนมายังจีนต้องปฏิบัติตาม “มาตรการบริหารพิเศษ สำหรับการค้าบริการข้ามพรมแดน (บัญชีข้อห้าม) หรือ"Special Administrative Measures for Cross-border Trade in Services (Negative List)"
จีนประกาศรายการข้อห้ามในการเข้าตลาดจีนฉบับแรกเมื่อปี 2561 นับเป็นชาติเศรษฐกิจใหญ่ชาติแรกในโลกที่นำระบบดังกล่าวมาใช้ในการพิจารณาอนุมัติการทำธุรกิจในจีน โดยเน้นย้ำการปฏิบัติต่อบริษัทจีนและต่างชาติภายใต้มาตรฐานกฎเกณฑ์เดียวกันไม่ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน บริษัทขนาดใหญ่ หรือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมก็ตาม
จีนมีการแก้ไขรายการข้อจำกัดและข้อห้ามมาแล้ว 4 ครั้งกล่าวคือในปี 2562 ปี 2563 ปี 2565 และปี 2568 โดยมีการลดข้อจำกัดและข้อห้ามลงราวร้อยละ 30 จาก 151 รายการในปี 2561 เหลือ 106 รายการในปัจจุบัน ตามข้อมูลของ NDRC
ที่มา : โกลบอลไทมส์