ศาลประชาชนมณฑลซานตงพิพากษาลงโทษจำเลย 9 รายในคดีฉ้อโกงผ่านเครือข่ายออนไลน์ข้ามชาติ ด้วยโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 14 ปี 9 เดือน พร้อมปรับเงิน โดยคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นชาวอินเดียมากถึง 66,800 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5.17 พันล้านรูปีอินเดีย หรือประมาณ 402 ล้านบาท
ขบวนการนี้มีหัวหน้าแก๊งคือ "เหอ โม่เทียน" ซึ่งชักชวนพรรคพวกอีก 8 คนร่วมกันจัดตั้งองค์กรหลอกลวงออนไลน์ที่มีโครงสร้างชัดเจน แบ่งหน้าที่อย่างละเอียด เช่น ฝ่ายฝึกอบรมพนักงาน ฝ่ายจัดทำบทสนทนา ฝ่ายสร้างเว็บไซต์ปลอม และฝ่ายดูแลช่องทางการเงิน โดยทั้งหมดร่วมกันหลอกลวงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวอินเดียผ่านแอปสนทนาและแพลตฟอร์มการลงทุนปลอมชื่อ “SENEE”
กลุ่มนี้ใช้กลยุทธ์สวมรอยเป็น “หญิงสาวอินเดีย” ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ผิดหวังในความรัก แล้วเข้าไปพูดคุยกับชายชาวอินเดียผ่านแอปแชท สร้างความสนิทสนมจนเหยื่อไว้วางใจ ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนในแพลตฟอร์ม SENEE โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึง 8–15% ต่อเดือนจากการลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 รูปีอินเดีย
เมื่อเหยื่อเริ่มลงทุนและเห็นผลตอบแทนตามที่อ้างในช่วงแรก ก็จะยอมเพิ่มจำนวนเงินลงทุนมากขึ้น เมื่อยอดเงินสูงเกินกว่าที่ระบบจะคืนได้ แพลตฟอร์มก็จะถูกปิดหรือถูกหลอกว่ากำลังแปลงเป็นหุ้น ทำให้ไม่สามารถถอนเงินได้อีก
ขบวนการนี้ยังใช้เทคนิคสร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยการจัดทำเว็บไซต์บริษัทหลอกขึ้นมา พร้อมแสดงเอกสารปลอม เช่น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ใบอนุญาตการเงินในอินเดีย ใบรับรองจดทะเบียนบริษัท รวมถึงโครงสร้างบริษัทที่ดูเหมือนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีการใช้เซิร์ฟเวอร์จากต่างประเทศ ช่องทางชำระเงินบุคคลที่สาม และระบบซื้อขายเหรียญคริปโต USDT เพื่อปิดบังเส้นทางการเงิน
หลังจากได้รับเงินลงทุนจากเหยื่อ ก็จะนำไปซื้อเหรียญ USDT แล้วแปลงเป็นเงินหยวนหรือดอลลาร์สหรัฐ พร้อมหักกำไรไว้ 15% ก่อนกระจายเงินกันในกลุ่ม
ศาลระบุว่า การฉ้อโกงภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ถึง 13 มกราคม 2567 ได้หลอกลวงผู้เสียหายมากถึง 66,800 ราย และมูลค่าความเสียหายสูงถึง 5.17 พันล้านรูปีอินเดีย หรือราว 402 ล้านบาท ถือเป็นขบวนการฉ้อโกงที่มีความซับซ้อน มีการแบ่งหน้าที่และประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เหยื่อตกเป็นเป้าได้ง่าย
ที่มา: 都市快报、菏泽市法院、网易号