ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงของจีนเริ่มการเยือน 3 ชาติในอาเซียนแล้ว โดยเยือนเวียดนามเป็นชาติแรกระหว่างวันที่ 14-15 เม.ย. 2568 ด้านหนังสือพิมพ์หนานดานของเวียดนามได้เผยแพร่บทความของผู้นำจีน เป็นการโหมโรงก่อนหน้าการมาเยือนไม่นาน
ในบทความชื่อ “ ต่อยอดความสำเร็จในอดีตและสร้างความก้าวหน้าใหม่ ๆ ในการแสวงหาเป้าหมายร่วมกัน” สีจิ้นผิงเตือนว่า สงครามการค้าและสงครามภาษีจะไม่ทำให้ใครเป็นผู้ชนะ การสร้างกำแพงและการกีดกันทางการค้า ( protectionism) จะไม่ช่วยในการหาทางแก้ไขปัญหาได้แต่อย่างใด โดยสีจิ้นผิงเรียกร้องให้จีนและเวียดนามเสริมสร้างความพยายามในทุกด้านเพื่อสร้างชุมชุมจีน-เวียดนามที่มีอนาคตร่วมกัน นอกจากนั้น จีนและเวียดนามควรร่วมมือกันปกป้องระบบการค้าพหุภาคี ห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมที่มีเสถียรภาพในโลก ตลอดจนปกป้องบรรยากาศความร่วมมือและการเปิดกว้างในหมู่นานาประเทศ
การเยือนเวียดนาม มาเลเซียและกัมพูชาของผู้นำจีนระหว่างวันที่ 14-18 เมษายนมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับชาติบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความใกล้ชิดกับจีนมากที่สุด เป็นการเยือนในช่วงเวลาเดียวกับที่ทั่วโลกกำลังเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนอันเนื่องมาจากสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าจากกว่า 180 ประเทศและดินแดน โดยในส่วนของจีนกับสหรัฐฯนั้นกลายเป็นสงครามการค้าที่ตอบโต้กันด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสูงลิ่วถึง 125 %
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนพยายามหาแนวร่วมด้วยการสนทนาทางวิดีโอกับสหภาพยุโรปและมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ รวมถึงซาอุดีอาระเบียและแอฟริกาใต้ เท่ากับเป็นการเข้าถึงชาติในอ่าวเปอร์เซีย กลุ่มประเทศจี20 และประเทศกลุ่มบริกส์ ( BRICS)
ตามข้อมูลของแหล่งข่าวและเอกสารของรัฐบาลที่สำนักข่าวรอยเตอร์ได้เห็นนั้น เวียดนามเตรียมปราบปรามสินค้าจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยอาศัยเวียดนามเป็นเส้นทางผ่านและจะเพิ่มการควบคุมการส่งออกสินค้าอ่อนไหวไปยังจีนอีกด้วย
ที่มา : โกลบอลไทมส์/ รอยเตอร์