BYD เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเป็น "จุดจบของรถยนต์น้ำมัน" ด้วยระบบชาร์จไฟความเร็วสูงที่ชาร์จเพียง 5 นาทีก็สามารถวิ่งได้ 400 กิโลเมตร และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเหนือกว่ารถน้ำมันในทุกด้าน
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม BYD จัดงานเปิดตัว Super e-Platform ที่นครเซินเจิ้น นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1) สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 1000V ระบบไฟแรงสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ 2) แบตเตอรี่ชาร์จเร็วระดับเมกะวัตต์ที่สามารถชาร์จจาก 7% เป็น 60% ได้ภายใน 5 นาที 3) มอเตอร์ไฟฟ้าความเร็วสูงที่หมุนได้ถึง 30,511 รอบต่อนาที (rpm) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในโลก และ 4) ระบบชาร์จพลังสูงสุด 1000kW ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD สามารถชาร์จได้เร็วเท่ากับการเติมน้ำมัน
หวัง ฉวนฝู ประธานและซีอีโอของ BYD กล่าวว่า บริษัทต้องการทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ และทำให้การเติมพลังงานรวดเร็วพอๆ กับรถน้ำมัน ปัจจุบันระบบชาร์จเร็วที่ดีที่สุดในตลาดอยู่ที่ระดับ 6C แต่ BYD สามารถทำได้ถึง 10C ซึ่งเป็นอัตราการชาร์จที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม สามารถชาร์จเพียง 1 วินาที วิ่งได้ 2 กิโลเมตร ชาร์จ 5 นาที วิ่งได้ 400 กิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับการเติมน้ำมันที่ใช้เวลา 5-8 นาทีต่อ 500 กิโลเมตร ถือเป็นการปิดจุดอ่อนของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้ใช้กังวลเกี่ยวกับระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่
เทคโนโลยีระบบชาร์จใหม่ล่าสุดของบีวายดีนี้มีอัตราเร็วการชาร์จสูงสุด 1,000 กิโลวัตต์ ถือว่าแรงกว่าเป็นเท่าตัวเทียบกับซูเปอร์ชาร์จเจอร์ของ "เทสลา" ซึ่งอัตราเร็วในการชาร์จอยู่ที่ 500 กิโลวัตต์ใน 15 นาทีสำหรับขับเคลื่อน 270 กิโลเมตร
บีวายดี จะประเดิมติดตั้งระบบชาร์จรุ่นใหม่ Super e-Platform ในรถยนต์ไฟฟ้าสองรุ่นใหม่ คือ Han L sedan และ Tang L SUV
เพื่อสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีใหม่ BYD วางแผนสร้างสถานีชาร์จเร็วระดับเมกะวัตต์กว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศจีน นอกจากนี้ยังเปิดให้บริษัทเอกชนลงทุนในสถานีชาร์จเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยขยายเครือข่ายชาร์จเร็วได้อย่างรวดเร็ว
การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ของ BYD ครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าอนาคตของรถยนต์น้ำมันจะเป็นอย่างไร เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จได้เร็วเทียบเท่าการเติมน้ำมัน และมีประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือกว่า เทคโนโลยีแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าของ BYD ยังล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์น้ำมันอาจต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ อนาคตของรถยนต์น้ำมันกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก และ BYD อาจเป็นผู้พลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ไปตลอดกาล
ที่มา กลุ่มสื่อจีน