ในปี 2564 หญิงนามสมมติว่า "หวัง ซี" ตัดสินใจซื้อบ้านมือสองหลังหนึ่งในเมืองหางโจว ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ในเขตโรงเรียนดี โดยราคาตลาดอยู่ที่ 7.65 ล้านหยวน แต่เธอสามารถตกลงซื้อได้ในราคา 7.59 ล้านหยวน (ประมาณ 38 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม เจ้าของเดิมนามสมมติว่า "จาง หยวน" ขออาศัยอยู่ต่ออีก 1 ปี เนื่องจากลูกของเขายังต้องเรียนหนังสือ หวัง ซี ไม่รีบร้อนจึงยอมตกลง และได้ทำสัญญาระบุเงื่อนไขนี้ไว้ชัดเจน
กระทั่งเดือนมีนาคม 2565 เธอได้เริ่มปรับปรุงบ้าน ก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน แต่หลังจากอยู่มาเกือบปี ในเดือนตุลาคม 2566 แม่ของเธอได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านและได้รับคำถามที่ทำให้ตกใจว่า "ทำไมคุณถึงกล้าซื้อบ้านหลังนี้?"
หลังจากสอบถามเพิ่มเติม เธอจึงทราบว่า ในเดือนเมษายน 2564 หลังจากที่บ้านถูกโอนกรรมสิทธิ์เพียงเดือนเดียว ลูกของเจ้าของเดิมได้ฆ่าตัวตายในบ้านหลังนี้ เพื่อนบ้านต่างรู้เรื่องนี้ดี และคิดว่าเธอเองก็คงรู้เรื่องนี้ก่อนซื้อบ้าน
เมื่อเธอนึกย้อนกลับไป เธอพบว่ามีเด็กหลายคนที่เคยมาขอมาเล่นที่บ้าน แต่พ่อแม่ของพวกเขารีบพากลับไปโดยไม่บอกเหตุผล
หลังจากทราบความจริง หวัง ซี ติดต่อกับบริษัทนายหน้า ซึ่งก็ตกใจและยืนยันว่าไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เธอจึงติดต่อกับเจ้าของเดิม และตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาล
ในสัญญาซื้อขายบ้านได้ระบุไว้ชัดเจนว่า เจ้าของเดิมรับรองว่าบ้านหลังนี้ไม่เคยเกิดเหตุเสียชีวิตผิดธรรมชาติ (รวมถึงการฆ่าตัวตายและฆาตกรรม) และหากมีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว ผู้ซื้อสามารถขอคืนบ้านและได้รับเงินคืนได้
ศาลชั้นต้นตัดสินว่า เจ้าของเดิมผิดสัญญา และให้หวัง ซี คืนบ้านได้ อย่างไรก็ตาม จาง หยวน ได้ยื่นอุทธรณ์ ทำให้คดียังไม่สิ้นสุด และเธอยังคงต้องอาศัยอยู่ในบ้านต่อไป
นอกจากนี้ ทนายยังเสริมว่า แม้เหตุการณ์การเสียชีวิตจะเกิดขึ้นหลังการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ถ้ายังไม่ส่งมอบบ้านให้กับผู้ซื้อ เช่นในกรณีนี้ ศาลมักจะมองว่า บ้านยังไม่ถือว่า "ส่งมอบสมบูรณ์" ดังนั้น ผู้ซื้อยังมีสิทธิขอคืนบ้านได้
ที่มา : สำนักข่าวต้าเซี่ยง