เช้าวันที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) กึกก้องไปด้วยเสียงระฆังเมื่อ "มี่เสวี่ยปิงเฉิง" แบรนด์เครื่องดื่มชานมและน้ำแข็งไสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างเป็นทางการภายใต้รหัสหุ้น HK02097 โดยเปิดตัวที่ราคา 284.4 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 1,071 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4.88 ล้านล้านบาท)
สิ่งที่แตกต่างจากพิธีเปิดตัวบริษัทจดทะเบียนทั่วไป คือ ผู้ก่อตั้งบริษัท "จางหงเชา" และ "จางหงฝู่" ไม่ได้ปรากฏตัวในพิธี รวมถึงผู้บริหารระดับสูงก็ไม่มีใครขึ้นเวทีเคาะระฆังเปิดตลาด โดยตัวแทนที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กลับเป็น "ราชาหิมะ" มาสคอตประจำแบรนด์ที่เดินขึ้นเวทีพร้อมกับตัวละครอื่นๆ ในแฟรนไชส์
"ราชาหิมะ" กล่าวระหว่างพิธีว่า "การเข้าตลาดหุ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น รหัสหุ้น 2097 ไม่ใช่จุดสิ้นสุด" พร้อมกันนี้ ทีมงานได้เปิดเพลงธีมของแบรนด์ซึ่งเป็นเพลงที่ติดหูผู้บริโภคไปทั่วจีน
หลังเปิดตลาด ราคาหุ้นของมี่เสวี่ยปิงเฉิงพุ่งขึ้นกว่า 40% ทำลายคำสาป "เข้าตลาดแล้วร่วง" ที่เคยเกิดขึ้นกับแบรนด์ชานมอื่นๆ
จากเอกสารจดทะเบียนในตลาดหุ้น พบว่า สองพี่น้องผู้ก่อตั้งมี่เสวี่ยปิงเฉิง ถือหุ้นโดยตรงในบริษัทถึง 42.78% ต่อคน และยังมีหุ้นที่ถือผ่านกองทุนพนักงานอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อคำนวณตามราคาหุ้นปัจจุบัน มูลค่าหุ้นในมือของพวกเขารวมกันอยู่ที่กว่า 840 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 3.8 ล้านล้านบาท)
จางหงเชาเริ่มต้นธุรกิจในปี 2540 ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ด้วยร้านน้ำแข็งไสเล็กๆ ที่ใช้เครื่องทำเอง ก่อนจะจดทะเบียนชื่อ "มี่เสวี่ยปิงเฉิง" อย่างเป็นทางการในปี 2542 ปัจจุบันบริษัทขยายไปยัง 11 ประเทศทั่วโลก โดยมีสาขามากกว่า 45,000 แห่ง มากกว่าจำนวนสาขาของสตาร์บัคส์
ความสำเร็จของมี่เสวี่ยปิงเฉิง มาจากระบบซัปพลายเชนที่มีประสิทธิภาพสูง บริษัทมีโรงงานผลิต 5 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 790,000 ตารางเมตร และสามารถผลิตวัตถุดิบหลักได้เอง 100% ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล นม หรือชา นอกจากนี้ ยังมีการทำฟาร์มเพาะปลูกของตัวเองเพื่อควบคุมคุณภาพ และสร้างระบบขนส่งโลจิสติกส์ที่สามารถส่งของให้ร้านแฟรนไชส์โดยไม่มีค่าขนส่ง ทำให้สามารถขายเครื่องดื่มราคาถูกได้แต่ยังคงมีกำไร
ก่อนเข้าตลาดหุ้น การเสนอขายหุ้น IPO ของมี่เสวี่ยปิงเฉิง ได้สร้างสถิติใหม่ในฮ่องกง โดยมียอดจองซื้อมากถึง 1.84 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 8.39 ล้านล้านบาท) ทุบสถิติเดิมของบริษัทไคว่โส่ว ที่เคยทำไว้ที่ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกงในปี 2564
การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ มีสถาบันการเงินรายใหญ่เข้ามาลงทุน เช่น ซีกัว แคปิทอล เอ็มแอนด์จี อินเวสเมนต์ ปั๋วหยู่ แคปิทอล และฮิลล์เฮาส์ แคปิทอล นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากเหมยถวน บริษัทแพลตฟอร์มส่งอาหารรายใหญ่ของจีน
ด้วยกระแสความนิยมและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มี่เสวี่ยปิงเฉิงจึงกลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชานมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตลาด
ที่มา : 每日经济新闻