MGR Online - สถานทูตจีนโต้ข้อกล่าวหาไทยส่งกลับชาวอุยกูร์สัญชาติจีนจำนวน 40 คนกลับประเทศเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ชี้ทั้งหมดไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อัดกลับบางประเทศใหญ่ปี 67 ส่งกลับผู้อพยพกว่า 270,000 คนไม่เห็นโวยวาย ยืนยันผู้ถูกส่งกลับจะได้ปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างดีที่สุด
วันนี้ (2 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่บทถาม-ตอบจำนวน 4 ข้อเกี่ยวกับจากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. รัฐบาลไทยได้ดำเนินการส่งกลับชาวอุยกูร์จำนวน 40 คน ไปยังต้นทางคือจีน ท่ามกลางเสียงโวยวายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายว่าคนเหล่านี้อาจได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ หลายประเทศตะวันตกยังส่งเสียงประณามประเทศไทยด้วย เช่น สหประชาชาติ สหรัฐฯ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร
จากกรณีดังกล่าว โฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทย จึงตอบคำถามผู้สื่อข่าว เนื่องจากในหลายวันที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างมาก เกี่ยวกับกรณีการส่งตัวชาวจีน 40 คนกลับประเทศ ผ่านช่องทางการติดต่อของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยได้รวมคำถามประมวลคำตอบดังต่อไปนี้
1.ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศบางแห่งแถลงว่า การที่ประเทศไทยส่งตัวชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 40 คนกลับประเทศจีน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาระหว่างประเทศ
คำตอบ: ทางการไทยและจีนมีหลักฐานยืนยันได้ว่า คนจีนทั้ง 40 คนที่ถูกส่งตัวกลับครั้งนี้ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่เป็นผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และรัฐบาลไทยได้ปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาลจีน โดยเป็นความร่วมมือที่ยึดมั่นในแนวทางการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยการปราบปรามผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ตามหลักมาตรฐานสากล ต่างเป็นที่ยอมรับกันว่า การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คือ อาชญากรรมอย่างหนึ่ง ดังนั้น การส่งตัวผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายกลับประเทศ จึงถือเป็นการการบังคับใช้กฎหมายปกติของประเทศที่มีอำนาจอธิปไตย ดังจะเห็นได้ว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ประเทศใหญ่บางประเทศได้ดำเนินการส่งกลับผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายไปยังประเทศต้นทางมากกว่า 270,000 คน
ดังนั้น การที่ประเทศซึ่งปฏิบัติโดยใช้หลักสากลเดียวกัน กลับกดดันให้องค์กรระหว่างประเทศ กล่าวโทษความร่วมมือในการปราบปรามผู้ลักลอบอพยพและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของรัฐบาลจีนและไทย จึงนับเป็นการใช้สองมาตรฐาน (double standard) และละเมิดหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและละเมิดอนุสัญญาต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างร้ายแรง ทั้งยังอาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติได้อีกด้วย
2.กรณีคำกล่าวอ้างของบางประเทศและกลุ่มบุคคลบางคน ที่ระบุว่า ผู้ที่ถูกส่งตัวกลับอาจถูกทรมานและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อเดินทางถึงประเทศจีน
คำตอบ: สาธารณรัฐประชาชนจีน ยึดมั่นในหลักการปกครองด้วยกฎหมาย และมุ่งให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านการปกป้องสิทธิมนุษยชนตามกฎหมาย และปราบปรามอาชญากรรม ในฐานะที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศแรก ๆ ที่ลงนามและให้สัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี หรือ Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment (เมื่อ พ.ศ. 2529 และ พ.ศ. 2531 ตามลำดับ) จีนจึงปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาดังกล่าวด้วยความมุ่งมั่น มีกลไกการทำงานและการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ เข้มงวดและครอบคลุม ที่ผ่านมาแม้แต่ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและก่ออาชญากรรม ก็ยังคงได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย
ทางการจีน ทราบดีว่าหลายฝ่ายมีความกังวลและห่วงใยถึงสวัสดิภาพของคนจีนทั้ง 40 คน เมื่อเดินทางถึงมาตุภูมิ เราจึงขอยืนยันด้วยภาพปัจจุบันว่า บุคคลเหล่านี้ได้รับการดูแลให้กลับบ้านและรวมตัวกับครอบครัวเป็นที่เรียบร้อย จากนี้รัฐบาลท้องถิ่นจะทำงานร่วมกับครอบครัวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสในการทำงาน และพัฒนาทักษะวิชาชีพตามความประสงค์ เพื่อช่วยให้พวกเขาเหล่านี้มีชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด หลังถูกคุมขังในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี
3. ไขข้อสงสัยกรณีสถานการณ์ในซินเจียงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
คำตอบ: นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 เกิดเหตุรุนแรงขึ้นในเขตปกครองตนเองซินเจียง พื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของจีนอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากกลุ่มก่อการร้ายบางกลุ่ม เช่น ขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (ETIM) ซึ่งได้รับการขึ้นบัญชีรายชื่อกลุ่มการก่อการร้ายจากองค์การสหประชาชาตินั้น ได้ขยายอิทธิพลเข้ามาในซินเจียง กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ มักฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์และก่อการร้ายในดินแดนซินเจียงอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นอกจากนี้ องค์กรต่อต้านจีนและกลุ่มกำลังก่อการร้ายในต่างประเทศบางแห่ง ยังปฏิบัติการหลอกลวงและชักชวนชาวท้องถิ่นให้ลักลอบหนีออกนอกประเทศ โดยใช้คาบสมุทรอินโดจีนเป็นช่องทางหลักในการส่งกำลังคนให้กับกลุ่มก่อการร้ายต่อต้านจีน
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว รัฐบาลกลางจีนและรัฐบาลเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ นำชาวชนเผ่าต่างๆ ของท้องถิ่น ต่อสู้กับกองกำลังกลุ่มก่อการร้าย จนประสบผลสำเร็จในที่สุด ซินเจียงไม่เคยเกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นอีกเลย นับตั้งแต่ปลายปีค.ศ.2016 เป็นต้นมา ขณะที่รัฐบาลจีนและรัฐบาลท้องถิ่นร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและการศึกษา อย่างจริงจัง ส่งผลให้ประชาชนในท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน รายได้ต่อหัวต่อปีของประชาชนในซินเจียงเพิ่มขึ้นถึง 6.7% เมื่อเทียบกับ พ.ศ.2567 ชนเผ่าต่างๆ ได้อยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง และประชาชนใช้ชีวิตและทำงานด้วยความสงบสุข
ประเทศบางประเทศและกลุ่มกำลังต่อต้านจีนระหว่างประเทศแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นความจริงที่ดีงามในซินเจียง สร้างและเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับซินเจียง บิดเบือนและใส่ร้ายโดยเจตนา รวมทั้งกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงต่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ของซินเจียง ซึ่งมุ่งประสงค์ที่จะทำลายเสถียรภาพของซินเจียงและยับยั้งการพัฒนาของจีนโดยใช้ข้ออ้างสิทธิมนุษยชนและศาสนาที่ไม่เป็นจริงทั้งสิ้น ทั้งนี้ เป็นการละเมิดต่อประชาชนชาวจีนและเป็นการหลอกลวงโลก และจะถูกปฏิเสธและต่อต้านจากชาวโลกในที่สุด
4. ในอนาคตรัฐบาลจีนจะยังคงอนุญาตให้ฝ่ายไทย เดินทางไปเยี่ยมบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับเพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่หรือไม่
คำตอบ: จะเห็นได้ว่า ในการส่งตัว 40 ชาวจีนกลับไปยังซินเจียงครั้งนี้ มีผู้แทนระดับสูงจากทางการไทยได้รับเชิญให้เดินทางไปซินเจียงของจีนเพื่อเป็นสักขีพยาน รวมทั้งได้ไปสังเกตการณ์ เยี่ยมเยียนถึงบ้านของผู้ที่ถูกส่งตัวกลับ ตามที่ปรากฏในภาพถ่ายและวิดีโอ ดังนั้น ในอนาคตฝ่ายจีนจึงยินดีอย่างยิ่งที่จะขอเชิญเจ้าหน้าที่ไทย ให้ไปติดตามและตรวจสอบความเป็นอยู่ของกลุ่มคนดังกล่าว เพื่อติดตามชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นจริงของพวกเขาในวันต่อไป
เมื่อปีที่แล้ว ซีรีส์จีนเรื่อง สู่แดนฝัน อาเล่อไท่ ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย เพื่อนชาวไทยจำนวนมากได้แสดงความสนใจและอยากเดินทางไปเยือนซินเจียง ประตูของซินเจียงเปิดกว้างต่อชาวโลกตลอดเวลา โดยปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวจากที่ต่าง ๆ มากกว่า 300 ล้านคนเดินทางมาเยือน เรายินดีต้อนรับบุคคลจากทุกประเทศที่ไม่มีอคติมาเยี่ยมชม เพื่อสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ ความสงบสุขของสังคม ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ความสามัคคีปรองดองระหว่างชนเผ่าต่างๆ และเสรีภาพทางศาสนาในซินเจียง รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่มีความสุขของประชาชนซินเจียง