xs
xsm
sm
md
lg

เงินเดือน 5,000 หยวน ห้ามกินหม้อไฟ? คำพูดเจ้าของร้านดัง จุดไฟดรามาทั่วจีน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงบนโลกออนไลน์จีน หลังจาก "ตู้จงปิง" ผู้ก่อตั้ง Ba Nu Hotpot ร้านหม้อไฟชื่อดัง ออกมาให้สัมภาษณ์ในงานสัมมนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหม้อไฟ โดยกล่าวว่า "หม้อไฟไม่ได้มีไว้สำหรับคนชนชั้นล่าง" และ "ถ้าเงินเดือนแค่ 5,000 หยวน (ประมาณ 25,000 บาท) ก็อย่ากินหม้อไฟ ไปกินบะหมี่หมาล่าแทน" ซึ่งคำพูดนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากในหมู่คนทำงานและคนรุ่นใหม่

ตู้จงปิงออกมาชี้แจงภายหลังว่า คำพูดของเขาถูกตัดต่อและนำเสนอในลักษณะที่บิดเบือนความหมาย โดยเขาต้องการสื่อว่า หม้อไฟในปัจจุบันมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ และอาจเป็นภาระทางการเงินสำหรับคนที่มีรายได้จำกัด ดังนั้น จึงแนะนำให้พวกเขาควบคุมการใช้จ่ายและลงทุนในอนาคตแทน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำชี้แจง แต่กระแสโซเชียลกลับไม่ลดลง หลายคนมองว่า ตู้จงปิงมีทัศนคติแบ่งแยกชนชั้น และดูถูกลูกค้ารายได้น้อย ขณะที่บางส่วนเปรียบเทียบกรณีนี้กับคำพูดของ หลี่เจียฉี อินฟลูเอนเซอร์สายขายของออนไลน์ ที่เคยวิจารณ์คนที่บ่นว่าสินค้าแพงว่า "หันกลับไปดูตัวเองก่อนว่าเงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือยัง" ซึ่งก็เคยถูกโจมตีอย่างหนักเช่นกัน


Ba Nu Hotpot เป็นร้านหม้อไฟระดับพรีเมียมที่มี 144 สาขาทั่วประเทศจีน และเป็นที่รู้จักจากการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น เนื้อวัวส่วนกระเพาะ  ที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน อย่างไรก็ตาม ราคาของร้านนี้ก็สูงกว่าร้านหม้อไฟทั่วไป โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารระบุว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 132 หยวน (ประมาณ 660 บาท) ขณะที่ในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ ลูกค้าอาจต้องจ่ายสูงถึง 160 หยวน (ประมาณ 800 บาท) ต่อคน

เมื่อเปรียบเทียบกับร้านหม้อไฟยอดนิยมอื่น เช่น Haidilao (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 100 หยวน/คน) และ Xiabuxiabu (62 หยวน/คน) ราคาของ Ba Nu ถือว่าอยู่ในระดับสูง แม้แต่ CouCou Hotpot ซึ่งเป็นแบรนด์พรีเมียมจาก Xiabuxiabu ยังมีราคาถูกกว่าเล็กน้อยที่ 125 หยวน/คน

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Ba Nu Hotpot ถูกวิจารณ์เรื่องราคา ย้อนกลับไปในปี 2566 ร้านเคยเจอดรามา "มันฝรั่งราคาแพง" หลังจากลูกค้ารายหนึ่งในซีอานโพสต์ภาพมันฝรั่ง 5 แผ่นที่เสิร์ฟมาในจาน พร้อมป้ายราคาที่ 18 หยวน (ประมาณ 90 บาท) ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าร้านนี้ตั้งราคาสูงเกินจริง


กระแสครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง "หม้อไฟราคาแพง" แต่เป็นประเด็นทางสังคมที่ใหญ่กว่านั้น โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพในจีนพุ่งสูงขึ้น คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายมากมาย ตั้งแต่ค่าที่พัก ค่าครองชีพ ไปจนถึงภาระหนี้สิน การที่ผู้ประกอบการระดับสูงออกมาพูดในลักษณะที่เหมือนดูถูกรายได้ของคนทั่วไป จึงสร้างความไม่พอใจในวงกว้าง

คำพูดของตู้จงปิงยังไปกระทบความรู้สึกของกลุ่มลูกค้าหลักของร้านหม้อไฟ ซึ่งก็คือคนวัยทำงานที่มีรายได้ปานกลางถึงปานกลางค่อนข้างต่ำ สำหรับพวกเขา การกินหม้อไฟไม่ใช่ "การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย" แต่เป็นวิธีการสังสรรค์ที่เข้าถึงง่าย ดังนั้น การที่ตู้จงปิงกล่าวว่า "เงินเดือน 5,000 หยวนไม่ควรกินหม้อไฟ" จึงเป็นคำพูดที่แทงใจดำคนจำนวนมาก

"Ba Nu" หมายถึง "คนงาน" หรือ "ชนชั้นแรงงาน" ในภาษาจีน ซึ่งเป็นคำที่มีรากมาจากประวัติศาสตร์หม้อไฟของแรงงานท่าเรือในนครฉงชิ่ง แต่การที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์ออกมาพูดในลักษณะนี้ ทำให้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องย้อนแย้ง

แม้ว่าตู้จงปิงจะออกมาขอโทษและอธิบายว่า คำพูดของเขาถูกตัดต่อจนผิดบริบท แต่ความไม่พอใจของประชาชนยังคงอยู่ และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Ba Nu Hotpot ในระยะยาว

ในโลกธุรกิจ การตั้งราคาสูงหรือเลือกจับตลาดระดับพรีเมียมไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งที่สำคัญคือ "วิธีการสื่อสารกับลูกค้า" ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างสำคัญว่า คำพูดเพียงไม่กี่ประโยค อาจสร้างความเสียหายให้แบรนด์ได้มากกว่าที่คิด

ที่มา : 新民周刊


กำลังโหลดความคิดเห็น