หลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมของจีนยืนยัน เมืองเมียวดีแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์มืดสลัวลง หลังจากไทยตัดกระแสไฟฟ้า
ศูนย์วิจัยข้อมูลขนาดใหญ่ระหว่างประเทศเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ในสังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) เปิดเผยกับโกลบอลไทมส์ สื่อทางการจีนว่า ดาวเทียม SDGSAT-1 สามารถจับภาพยามค่ำคืนในเมืองเมียวดี ซึ่งบ่งชี้ว่า ความสว่างในพื้นที่ตามแนวชายแดนติดกับประเทศไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ศูนย์วิจัยดังกล่าวระบุว่า แสงสว่างที่ลดลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ "สามตัด" ของรัฐบาลไทย ซึ่งบ่งชี้ว่าความพยายามความร่วมมือของจีน ไทย และพม่าเริ่มให้ผลลัพธ์เชิงบวก
ประเทศไทยประกาศตัดไฟฟ้า น้ำมัน และบริการอินเตอร์เน็ตใน 5 พื้นที่ฝั่งพม่า ซึ่งติดพรมแดนไทยตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การสอบสวนของรัฐบาลไทยพบว่า จุดเชื่อมต่อทั้ง 5 นี้เชื่อมโยงกับกิจกรรมการหลอกลวงออนไลน์ ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว
ภาพถ่ายดาวเทียมที่เห็นเมืองเมียวดีมืดลงถ่ายเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับที่ภาพถ่ายดาวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะมีการบังคับใช้นโยบาย "สามตัด" ของไทย
จากการวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยตามที่ได้เปิดเผยกับโกลบอลไทมส์นั้น พบว่าไฟฟ้าในพื้นที่ย่าไท่ซิตี้ปาร์ก (Yatai City Park) ซึ่งเป็นศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลดลงประมาณร้อยละ 52.24 ในพื้นที่จื่อจินถัน (Zijintan) ลดลงประมาณร้อยละ 89.73 ในพื้นที่หวนหยาอินเตอร์เนชันแนลปาร์ก (Huanya International Park) ลดลงประมาณร้อยละ 92.20 ส่วนในพื้นที่ KK และต่งเฟิง (Dongfeng) ลดลงประมาณร้อยละ 89.14 การค้นพบนี้บ่งชี้ว่าการจ่ายไฟฟ้าในท้องถิ่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ของไทยเคยแถลงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ว่า นโยบาย “สามตัด” ส่งผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในพม่าลดลงร้อยละ 40 ตามรายงานของซีซีทีวีนิวส์
ทั้งนี้ SDGSAT-1 ซึ่งมีชื่อเต็มว่า ดาวเทียมทางวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นดาวเทียมดวงแรกสำหรับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030 ของสหประชาชาติและยังเป็นดาวเทียมสำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์โลกดวงแรกของ CAS อีกด้วย
ที่มา : โกลบอลไทมส์