ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 แอปพลิเคชัน AI “Tencent Yuanbao” (腾讯元宝) ของบริษัทเทนเซ็นต์ ขึ้นแซงแอป “Doubao” (豆包) มาอยู่อันดับที่ 2 ในกลุ่มแอปฟรีบน App Store ของจีน โดยมีเพียงแอป “DeepSeek” ที่ยังคงครองอันดับหนึ่งอย่างเหนียวแน่น จากการจัดอันดับ 10 แอปพลิเคชันยอดนิยมล่าสุดของ App Store จีน พบว่ามีถึง 6 แอปที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สะท้อนกระแสความนิยมของเทคโนโลยี AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในจีน
เบื้องหลังการไต่อันดับอย่างรวดเร็วของ “Tencent Yuanbao” มาจากการอัปเกรดฟีเจอร์ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีการเสริมความสามารถของ AI ด้วยการผสานโมเดลปัญญาประดิษฐ์สองตัว คือ “DeepSeek” และ “Hunyuan” (混元) ทำให้สามารถเข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จากภาพได้ จากเดิมที่สามารถสแกนเฉพาะตัวอักษรในภาพเท่านั้น
เทนเซ็นต์เปิดเผยว่า ในอนาคตผู้ใช้แอป Yuanbao จะสามารถส่งรูปภาพใดๆ เข้าไปก็ได้ โดย AI ของแอปจะสามารถวิเคราะห์เนื้อหาในภาพ และให้คำตอบหรือคำแนะนำได้ทันทีแม้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ขณะนี้ Yuanbao รองรับการทำความเข้าใจรูปภาพ วิเคราะห์ไฟล์ เรียกดูบทความจากบัญชีสาธารณะบน WeChat และอัปโหลดไฟล์จาก WeChat ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งสัปดาห์ Yuanbao ยังอยู่ในอันดับท้ายๆ แต่การเปิดตัวโมเดล “DeepSeek-R1” และนำมาเชื่อมต่อเข้ากับแอปอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็กลายเป็นแรงผลักสำคัญให้ Yuanbao มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนขึ้นมาอยู่อันดับที่สองได้สำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้น
ขณะเดียวกัน เทนเซ็นต์ยังเร่งปรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในบริษัทให้เข้ากับเทคโนโลยี AI อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน IMA, QQ Browser, Tencent Docs, Tencent Map และ QQ Music ที่ประกาศพร้อมสนับสนุนโมเดล AI สองตัว คือ “Hunyuan” และ “DeepSeek-R1” ขณะที่เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แอปพลิเคชัน WeChat ซึ่งมีผู้ใช้งานต่อเดือนสูงถึง 1,300 ล้านคน ก็เริ่มทดลองฟีเจอร์ค้นหาแบบ AI (AI Search) ที่เชื่อมต่อกับโมเดล DeepSeek-R1 แล้วเช่นกัน
ในแง่โครงสร้างองค์กรภายในของเทนเซ็นต์เอง มีการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับยุทธศาสตร์ AI อย่างจริงจัง ล่าสุดแอปพลิเคชัน Yuanbao ถูกโอนย้ายจากกลุ่มเทคนิคและวิศวกรรม (TEG) มายังกลุ่มคลาวด์และธุรกิจอุตสาหกรรม (CSIG) รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น QQ Browser และแอป IMA ก็จะถูกย้ายจากกลุ่มธุรกิจคอนเทนต์ (PCG) มาอยู่ภายใต้ CSIG เช่นเดียวกัน
นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ AI ชาวจีน กัวเทา วิเคราะห์ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าเทนเซ็นต์ตั้งใจเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยี AI อย่างจริงจัง พร้อมปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีความคล่องตัวในการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของตลาดในปัจจุบัน
ไม่ใช่แค่เทนเซ็นต์ที่มุ่งพัฒนาด้าน AI อย่างจริงจัง บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอีกหลายแห่งก็ตอบรับกับกระแสของ DeepSeek เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Volcengine ของบริษัท ByteDance ประกาศสนับสนุนโมเดล AI “DeepSeek” เช่นกัน โดยผู้ใช้องค์กรสามารถใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม veMLP และ Volcengine Ark ได้โดยตรง
ด้าน Doubao ที่ถูก Yuanbao แซงอันดับ ล่าสุดอยู่ที่อันดับ 3 โดยโมเดลของ Doubao เองมียอดการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนเนื่อง โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีการเรียกใช้งานโมเดล Doubao มากกว่า 4 ล้านล้านโทเคน (Tokens) ต่อวัน เพิ่มขึ้นถึง 33 เท่า เมื่อเทียบกับตอนเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
ในขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า ดร.อู๋ หย่งฮุย นักวิจัยระดับสูงซึ่งเคยทำงานที่ Google นานถึง 17 ปี ได้ลาออกมาร่วมงานกับ ByteDance แล้ว โดยจะดูแลงานวิจัยพื้นฐานด้าน AI ในทีม Seed และทำงานร่วมกับจูเหวินเจีย ซึ่งดูแลการพัฒนาโมเดล AI เพื่อนำไปประยุกต์ใช้จริง ทั้งสองรายงานตรงต่อเหลียงหรู่ปัว CEO ของบริษัท
กระแสตอบรับจากตลาดทุนก็ร้อนแรงเช่นกัน รายงานจาก UBS ระบุว่า หุ้นกลุ่ม AI ในจีนปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 15% หลังจากโมเดล DeepSeek-R1 เปิดตัว ซึ่งสูงกว่าดัชนี MSCI China ถึง 9% โดยประเมินว่าหุ้นกลุ่ม AI ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากสภาวะตลาดที่มีสภาพคล่องสูงขึ้นและดอกเบี้ยที่ลดลงในปีนี้
ล่าสุด ราคาหุ้นของเทนเซ็นต์เคยพุ่งไปถึง 513 ดอลลาร์ฮ่องกง สูงสุดในรอบหลายปี Goldman Sachs ปรับเป้าหมายราคาหุ้นเทนเซ็นต์ขึ้นเป็น 534 ดอลลาร์ฮ่องกง และ UBS ขยับเป้าหมายเป็น 593 ดอลลาร์ฮ่องกง ขณะที่ Alibaba ก็ได้รับแรงหนุนจากกระแส AI เช่นกัน โดยหลังจากเปิดเผยผลประกอบการเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ราคาหุ้นปรับขึ้นถึง 14.56%
กัวเทาสรุปว่า "DeepSeek" กำลังกลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญในการประเมินมูลค่าของอุตสาหกรรม AI และการลงทุนในอนาคตจะเน้นบริษัทที่มีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างแท้จริง มีความสามารถในการปรับใช้ และมีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งรองรับ
การแข่งขันในตลาด AI รอบใหม่นี้กำลังเริ่มขึ้นอย่างเข้มข้น ใครจะเป็นผู้ชิงชัยในท้ายที่สุด ยังต้องรอดูกันต่อไป
ที่มา : Time Finance (时代财经)