xs
xsm
sm
md
lg

โซเชียลจีนฮือฮา! สาวเรียนจบ Cambridge เลือกเป็นคนเลี้ยงสัตว์ในสวนสัตว์ เพราะอยากใกล้ชิดสัตว์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หม่า หยา (马雅) หญิงสาวชาวจีนวัย 24 ปี จากเมืองหนานจิง จบการศึกษาจาก Imperial College London ในระดับปริญญาตรี และคว้าปริญญาโทด้านสัตวแพทยศาสตร์จาก University of Cambridge แต่แทนที่จะเลือกทำงานในบริษัทชั้นนำด้านชีวการแพทย์ เธอกลับเลือกสมัครเป็น "เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์" ที่สวนสัตว์เซี่ยงไฮ้ เพื่อทำงานที่ได้ใกล้ชิดกับสัตว์โดยตรง

เธอเริ่มงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยตลอดปีที่ผ่านมาได้ทำงานในหลากหลายแผนก ตั้งแต่ดูแลช้าง ฮิปโป แรด ลิงชนิดต่างๆ ไปจนถึงสัตว์กินเนื้ออย่างเสือดาว หมาป่า และแรคคูนแดง ปัจจุบัน เธอประจำอยู่แผนกสัตว์กินพืช ดูแลกวางและแพะ

หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ มีคนแสดงความคิดเห็นว่า เธอเลือกงานนี้เพราะตำแหน่งเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เป็นงานที่มีความมั่นคงและมีสวัสดิการดี

หม่า หยา ตอบว่า "ความมั่นคงไม่ใช่สิ่งที่ฉันให้ความสำคัญที่สุด ฉันสนใจเรื่องค่าตอบแทนแน่นอน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฉันอยากทำงานที่เกี่ยวกับสัตว์ และได้เห็นผลลัพธ์ของงานด้วยตาตัวเอง"

บางคนมองว่าการเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ถือเป็น "การใช้คนเกินความจำเป็น" เพราะเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับโลก แต่หม่า หยา กลับเห็นต่าง เธอมองว่า ความรู้ด้านสัตวแพทย์และการจัดการประชากรสัตว์ยังสามารถนำมาใช้กับงานดูแลสัตว์ได้

"ความรู้เชิงทฤษฎีมีประโยชน์มาก การวิเคราะห์ข้อมูลการจัดการประชากรสัตว์ช่วยให้เราวางแผนได้ดีขึ้น ความรู้ด้านเภสัชวิทยาสัตว์ก็ช่วยได้มากเมื่อสัตว์ป่วย ฉันคิดว่างานนี้ทำให้ฉันเข้าใจกลไกการทำงานของสวนสัตว์อย่างแท้จริง"


ชีวิตของเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์สวนสัตว์เซี่ยงไฮ้เริ่มต้นตั้งแต่ 08 00 น. และสิ้นสุดที่ 17.00 น. โดยมีภารกิจหลักคือ ตรวจตราสัตว์ ทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยงสัตว์ และให้อาหารสัตว์ บางครั้งยังต้องมีส่วนร่วมในการให้ความรู้แก่ประชาชน และออกแบบกิจกรรมเพิ่มคุณภาพชีวิตให้สัตว์

หม่า หยา กล่าวว่า เธอไม่เคยรังเกียจกลิ่นจากกรงสัตว์ หรือการทำงานที่ต้องใช้แรงมาก

"ถ้าจะเปรียบเทียบกับงานออฟฟิศ แน่นอนว่ามันแตกต่างกัน แต่ฉันไม่คิดว่าแย่เลยนะ" เธอกล่าว "การทำงานที่นี่ทำให้ฉันแข็งแรงขึ้นเยอะ เมื่อก่อนนั่งทำงานนานๆ แล้วปวดหลัง แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นมาก"

ในช่วงแรกของการทำงาน เธอต้องรับมือกับการดูแลช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่ต้องให้อาหารวันละหลายรอบและต้องใช้แรงขนย้ายอาหารมาก เธอยอมรับว่าเคยกลัวงวงช้างที่ยื่นมาหาเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอเรียนรู้วิธีทำงานกับพวกมันอย่างปลอดภัย

ล่าสุด หม่า หยา ได้รับมอบหมายให้ฝึก "ทาร์ก" (Tahr) หรือแพะภูเขาชนิดหนึ่ง เธอฝึกให้มันเคลื่อนที่ตามไม้ชี้ตำแหน่ง เพื่อช่วยให้สัตว์สามารถย้ายกรงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เธอยังฝึกให้สัตว์ชินกับการชั่งน้ำหนัก เจาะเลือด และแปรงขน เพื่ออำนวยความสะดวกให้สัตวแพทย์

"แต่สัตว์ก็มีอารมณ์ขึ้นลงเหมือนกัน" หม่า หยา เล่า "ช่วงแรกมันทำได้ดี แต่พอมีลูก มันระวังตัวมากขึ้น ก็ต้องใช้วิธีการฝึกใหม่"


เธอเล่าว่า ตอนเด็กๆ เธอชอบไปสวนสัตว์มาก โดยเฉพาะโซนแมวป่า ตอนแรกเธอชอบเสือดาวมากที่สุด แต่หลังจากที่ได้ทำงานจริง เธอพบว่าเธอชอบ "เสือคาราคัล" หรือ "เสือลิงซ์" มากกว่า

"มันดูมีวิญญาณในแววตา เวลามันจ้องตาเรามันเหมือนกำลังสื่อสารกับเรา"

งานที่สวนสัตว์ยังทำให้เธอได้เรียนรู้พฤติกรรมของสัตว์ในแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน เช่น นักวิจัยเคยทดลองให้ "แพนด้าแดง" ใช้มือหยิบอาหารจากกล่อง แต่แพนด้าแดงกลับใช้หัวมุดเข้าไปแทน เพราะมันคุ้นชินกับพฤติกรรมแบบนี้

"มันทำให้ฉันตระหนักว่า สัตว์มีพฤติกรรมของมันเองที่เราอาจไม่เข้าใจ แต่ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่กับพวกมันมากพอ เราจะเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน"


แม้จะมีความสุขกับงานนี้ แต่หม่า หยา มองว่าตัวเองยังมีเส้นทางอีกยาวไกล เธอต้องการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้มากขึ้น

"ฉันอยากพัฒนาโครงการวิจัยด้านโภชนาการสัตว์ และศึกษาวิธีรักษาโรคของสัตว์ในสวนสัตว์ให้ดีขึ้น"

นอกจากนี้ เธอยังสนใจการสื่อสารและการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับสัตว์ป่า และหวังว่าการทำงานของเธอจะช่วยให้สวนสัตว์สามารถเชื่อมโยงคนกับสัตว์ได้ดียิ่งขึ้น

"สวนสัตว์ไม่ใช่แค่ที่จัดแสดงสัตว์ แต่มันเป็นศูนย์กลางของการศึกษาและการอนุรักษ์ ฉันหวังว่าประสบการณ์ที่ฉันได้รับที่นี่ จะช่วยให้ฉันสามารถพัฒนาวงการนี้ได้ในอนาคต"

ที่มา: 澎湃新闻


กำลังโหลดความคิดเห็น