เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขตฝูเถียนของเมืองเซินเจิ้นได้เปิดตัวเจ้าหน้าที่รัฐดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จำนวน 70 คน เพื่อให้บริการในภาครัฐ ภายใต้โครงการ "AI เจ้าหน้าที่รัฐ" ซึ่งพัฒนาโดย DeepSeek เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะในด้านการจัดการเอกสารราชการ การบริการประชาชน และการบริหารจัดการงานต่างๆ ของภาครัฐ
การเปิดตัวในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเกรดโครงการ "โมเดลการบริหารงานของฝูเถียน 2.0" ซึ่งพัฒนาโดยใช้ DeepSeek R1 เป็นเทคโนโลยีหลักในการพัฒนา AI สำหรับงานภาครัฐ โดยการพัฒนาครั้งนี้ผสมผสานเทคนิคการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และการเรียนรู้เชิงเสริม (Reinforcement Learning) พร้อมกับสถาปัตยกรรมผสมผสานผู้เชี่ยวชาญ (MoE) เพื่อให้โมเดล AI สามารถประมวลผลได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น ลดข้อผิดพลาดจากการใช้เทคโนโลยีเก่าๆ ที่เคยมีข้อจำกัดในเรื่องของความเสถียรและความสามารถในการประมวลผล
หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของการใช้ "AI เจ้าหน้าที่รัฐ" นี้ คือการปรับปรุงความเร็วในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ตัวอย่างเช่น การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารภาครัฐที่สามารถลดเวลาจากหลายวันให้เหลือแค่ไม่กี่นาที และการปรับปรุงรูปแบบของเอกสารภาครัฐให้มีความถูกต้องมากขึ้น โดยอัตราความถูกต้องในการแก้ไขเอกสารมีมากกว่า 95%
นอกจากนี้ ความสามารถในการประมวลผลยังมีการพัฒนาอย่างมากในด้านการตรวจสอบเอกสารซึ่งสามารถลดเวลาในการตรวจสอบลงถึง 90% เมื่อเทียบกับกระบวนการเดิม และยังสามารถควบคุมอัตราความผิดพลาดได้ไม่เกิน 5% ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจจากการใช้ AI ในงานภาครัฐ
"AI เจ้าหน้าที่รัฐ" นี้ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในหลายๆ ด้านของการบริการภาครัฐ เช่น การจัดการเอกสารราชการ การให้บริการสาธารณะ การจัดการเหตุฉุกเฉิน การจัดการโครงการดึงดูดนักลงทุน และอีกมากมาย โดยระบบสามารถประมวลผลข้อมูลจาก 240 กรณีใช้งานในภาครัฐ เพื่อให้มีการวิเคราะห์และให้บริการที่มีความแม่นยำตรงกับความต้องการของประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ
โดยในตอนนี้ เขตฝูเถียนได้เปิดตัวเจ้าหน้าที่รัฐดิจิทัลจำนวน 70 คนที่สามารถดูแลและประสานงานในหลายๆ ด้าน โดยมีการจัดเตรียมข้อมูลและฝึกอบรม AI ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของ AI เจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช่แค่การช่วยลดภาระของมนุษย์ แต่ยังเป็นการเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจและการบริหารงานในเชิงปฏิบัติการ
หนึ่งในความสามารถที่สำคัญของ "AI เจ้าหน้าที่รัฐ" คือการที่สามารถช่วยจัดสรรงานข้ามแผนกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ระบบ "AI Task Supervision Assistant" ที่สามารถจัดการงานข้ามแผนกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 80% และยังช่วยเพิ่มอัตราการทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลาได้ 25% ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานภาครัฐ
ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของการพัฒนาครั้งนี้คือการที่โมเดล AI 2.0 สามารถปรับแต่งตามลักษณะงานและความต้องการของแต่ละหน่วยงานได้อย่างยืดหยุ่น โดยการฝึกอบรม AI ให้สามารถประมวลผลข้อมูลเฉพาะในแต่ละสาขา เช่น การจัดการทรัพยากรมนุษย์ การจัดการการเงิน การพัฒนาธุรกิจ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ AI สามารถทำงานได้ดีขึ้นตามสถานการณ์และความต้องการของหน่วยงานต่างๆ
ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ในการปฏิบัติงานภาครัฐนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการบริหารงานของรัฐบาลจีน โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการบริหาร ที่จะช่วยให้ภาครัฐสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
ที่มา: 南方网综合幸福福田、中国基金报、界面新闻、广东新闻广播