การประชุมสัมมนาร่วมกับผู้ประกอบการเอกชนจีนซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) ปิดฉากลงด้วยการเน้นย้ำคำมั่นของผู้นำจีนที่จะให้การส่งเสริมภาคธุรกิจเอกชนด้วยนโยบายและมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม
การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีผู้นำบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และผู้ประกอบการธุรกิจชั้นนำอื่นๆ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง รวมถึงนายเหริน เจิ้งเฟย แห่งหัวเว่ยเทคโนโลยีส์ นายหวัง เฉวียนฝู แห่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าบีวายดี นายหลิว หยงเหา แห่งบริษัทนิวโฮป นายหยู เหรินหรงแห่งบริษัทวิลล์เซมิคอนดักเตอร์ (Will Semiconductor) นายหวัง ซิงซิงแห่งยูนิทรีโรโบติกส์ (Unitree Robotics) และนายเหล่ย จวิน แห่งเสียวหมี่ โดยผู้นำธุรกิจทั้ง 6 คนนี้ได้เสนอความคิดเห็นและคำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาภาคธุรกิจเอกชน
หลังจากรับฟังความคิดเห็นเหล่านี้แล้ว สี จิ้นผิงได้กล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ว่าควรมีการขจัดอุปสรรคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเอกชนเข้าถึงปัจจัยการผลิตและโอกาสทางการตลาดอย่างเท่าเทียมกัน โดยรัฐบาลจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของธุรกิจเอกชนและผู้ประกอบการอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม หลักการพื้นฐานและนโยบายของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจภาคเอกชนนั้นอยู่ภายใต้ระบบสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน ซึ่งจะต้องยึดถือและปฏิบัติตาม โดยไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
สี จิ้นผิงยังเรียกร้องให้ผู้ประกอบการทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ในโลกอย่างจีนมีการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาธุรกิจ โดยความยากลำบากและปัญหาท้าทายซึ่งการพัฒนาภาคธุรกิจเอกชนกำลังเผชิญในขณะนี้เป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการพัฒนาและการปฏิรูปและการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม แต่จะไม่อยู่ยาวนานและสามารถแก้ไขได้
นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังเน้นย้ำบทบาทของภาคธุรกิจเอกชนในการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนเป้าหมายที่กว้างขึ้นของจีน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาที่มุ่งเน้นคุณภาพสูง โดยไม่ลืมการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า สี จิ้นผิงจัดการประชุมสัมมนาครั้งนี้ในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่เติบโตตามเป้าหมาย อีกทั้งยังถูกรุมเร้าด้วยสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีกับสหรัฐฯ ที่ทวีความดุเดือดภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยสี จิ้นผิงเคยจัดการประชุมสัมมนากับผู้ประกอบการเอกชนจีนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2561
เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว จีนมีบริษัทเอกชนจดทะเบียนมากกว่า 55 ล้านแห่ง คิดเป็นร้อยละ 92.3 ของธุรกิจทั้งหมด โดยรายได้จากภาษีกว่าครึ่งหนึ่งของจีนมาจากบริษัทเหล่านี้ซึ่งยังมีส่วนสร้างรายได้มากกว่าร้อยละ 60 ของจีดีพี และมากกว่าร้อยละ 80 ของการจ้างงานในเมือง
ที่มา : ไชน่าเดลี/เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์