xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก "หลิว จงอี้" ผู้บุกตะลุยชเวโก๊กโก่ ที่แท้ "มือปราบพระกาฬแห่งจีน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังจากเหตุดาราจีน "ซิงซิง" ถูกล่อลวงไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดีของประเทศพม่าโดยผ่านไทย กลายเป็นข่าวดังเปรี้ยงปร้างในต้นเดือน ม.ค. จนกระตุกกระแสวิจารณ์สนั่นสะเทือนทั้งไทย พม่า และจีน ทั้ง "เมียวดี: นรกบนดิน" "ไทยอันตราย" "จีนต้มจีน" ในปลายเดือนเดียวกัน "หลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นำทีมลุยอำเภอสอดในจังหวัดตาก ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามเมียวดีเพียงมีแม่น้ำเมยสายเล็กๆ คั่นเขตแดนประเทศ หลิวยืนส่องแหล่งซ่องสุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กดดันไทยช่วยปราบแก๊งอาชญากรรมโดยตัดไฟ ตัดสัญญาณเน็ตจนสำเร็จ ต่อมาไม่ทันข้ามเดือนในวันที่ 16 ก.พ.2568 หลิว จงอี้ ดอดมาไทย ตรงไปยังอำเภอแม่สอด และข้ามฝั่งไปยังเมียวดี เพื่อตระเตรียมการรับตัวชาวจีนที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศจีน ข่าวเผยการมาของหลิวจงอี้หนนี้ ท่านจัดหนักลุยปฏิบัติการปราบจีนเทาไปถึงรัฐฉานลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ-รัฐกะเหรี่ยง ยันพญาตองซู และยังบุกถึงเนปีดอไปคุยรัฐมนตรีพม่า

"หลิว จงอี้" คือใคร เคยฝากวีรกรรมใดไว้ มาดูกัน...

เผยฝีมือ "หลิว จงอี้" มือปราบจีนระดับพระกาฬ

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญหลายคดีที่ไม่สามารถไขปริศนา ด้วยความซับซ้อนของหลักฐานและความลึกลับของคนร้าย หลายคดีใช้เวลาสืบสวนมากกว่า 10 ปีโดยคดีที่ยืดเยื้อนานที่สุดเกือบ 30 ปี จนผู้คนเรียกขานเป็น "ศตวรรษแห่งปริศนา" ในคดียืดเยื้อนับสิบๆ ปีเหล่านี้มีคดีมาตกรรมต่อเนื่องที่เขย่าขวัญสังคมจีนที่สุด คือคดีข่มขืนและฆ่าโหดผู้หญิง 11 รายโดยเหยื่ออายุน้อยสุดเพียง 8 ขวบ อาชญากรก่อเหตุในเมืองไป๋อิ๋น มณฑลกันซู่และเมืองเปาโถวในเขตปกครองมองโกเลียใน ต่อเนื่องนานถึง 14 ปี (ปี 2531-2545) ตำรวจใช้เวลาคลี่คลายคดี 28 ปี สองคดีฆาตกรรมในไคหลี่ มณฑลกุ้ยโจวเมื่อปี 2541 ได้แก่ คดีแทงตำรวจ กับคดีฆ่ายกครัวนายแบงค์พร้อมเพื่อนบ้าน คดีทำอนาจรและฆ่าเด็กนักเรียนหญิงสามคนที่เจี้ยงเซี่ยนในมณฑลซานซี

จนกระทั่ง "หลิว จงอี้" ขึ้นมามีอำนาจในหน่วยสอบสวนคดีใหญ่ของประเทศ ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการกรมสอบสวนคดีอาญาของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน (ขณะนั้น) ในปี 2559 เขาได้จัดตั้ง "ทีมเฉพาะกิจสืบสวนคดีฆาตกรรมเก่า" พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และเดินหน้าคลี่คลายคดีที่ค้างคามายาวนาน โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาร่วมวิเคราะห์หลักฐานที่เคยถูกมองข้ามซึ่งทำให้ไม่อาจคลี่คลายปริศนาและจับตัวคนร้ายได้

หลิว จงอี้ ขณะให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์กลางแห่งจีน เกี่ยวกับการคลี่คลายปริศนาคดีที่ยืดเยื้อเป็นสิบๆปีของจีน
หลิว จงอี้ มีประสบการณ์ด้านอาชญากรรมมายาวนานถึง 32 ปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนที่สามารถปิดคดีได้มากกว่าพันคดี เขาเชื่อว่าคดีอาชญากรรมทุกคดีมี "ช่องว่าง" และไม่มีอาชญากรคนใดสามารถลอยนวลไปได้ตลอดกาล

"เราไม่มีวันหยุด ไม่มีเส้นตาย ถ้าคดีใดยังไม่ได้รับการคลี่คลาย มันจะอยู่ในสายตาของเราเสมอ" เขากล่าวอย่างหนักแน่น


ในเดือนมีนาคม 2559 หลิว จงอี้ นำทีมคัดเลือกฟื้นคดีฆาตกรรมสุดเหี้ยมเกรียมที่ซับซ้อนและยังไม่ได้รับการคลี่คลาย 9 คดี โดยมี 5 คดีที่ได้รับการแก้ไขภายในเวลาไม่กี่ปี โดยหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมของเขาสามารถคลี่คลายปริศนาและปิดคดีได้ คือการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับประสบการณ์การสืบสวน

ตัวอย่างคดีเด็ดที่ปิดคดีโดยหลิว จงอี้

คดีที่ 1: ใช้ลายนิ้วมือผิดรูปจับตัวฆาตกรได้ภายใน 48 ชั่วโมง

ในคดีหนึ่ง ตำรวจมีเพียงลายนิ้วมือที่ผิดรูป เป็นหลักฐาน แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่และการวิเคราะห์จากทีมผู้เชี่ยวชาญ 11 คน ที่ใช้เวลาศึกษาลายนิ้วมือนี้ถึง 2 สัปดาห์ พวกเขาสามารถปรับแต่งรูปแบบลายนิ้วมือให้สามารถเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลระดับประเทศได้ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 ลายนิ้วมือนี้ถูกป้อนเข้าสู่ฐานข้อมูล และในวันถัดมา 29 กรกฎาคม พบว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ตรงกันทันที และใน 30 กรกฎาคม ฆาตกรถูกจับกุม โดยเขายอมรับสารภาพในทันที

"ลายนิ้วมือยังคงเป็นลายนิ้วมือเดิม DNA ก็ยังเป็น DNA เดิม แต่สิ่งที่สำคัญคือเราจะใช้มันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด" หลิว จงอี้ กล่าว

ในกรณีเหตุข่มขืนและฆ่าโหดผู้หญิง 11 รายในกันซู่และมองโกเลียใน ซึ่งฆาตกรก่อเหตุนาน 14 ปี (1988-2002) เจ้าหน้าที่ใช้เวลาคลี่คลายคดีถึง 28 ปี โดยทำการพิสูจน์ลายมือ 230,000 ชิ้น และตรวจสอบตัวอย่างเลือด 100,000 ตัวอย่าง จนจับกุมตัวคนร้ายได้ในเดือนสิงหาคม 2016
คดีที่ 2: ลายนิ้วมือ 4 นิ้ว ล็อกตัวฆาตกรที่ซ่อนตัวมานาน 18 ปี

คดีฆ่าตำรวจและปล้นปืนที่เมืองไคหลี่ มณฑลซานตง เกิดขึ้นในปี 2541 ตำรวจพบลายนิ้วมือของคนร้าย 4 นิ้ว ที่เป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่มชาติพันธุ์ในท้องถิ่น ทีมของหลิว จงอี้ ทำทำเวลาหลายเดือน ส่งนายตำรวจถึง 500 นายไปสืบสวน ตรวจสอบประชากรในพื้นที่กว่า 10,000 คน จนในที่สุด พวกเขาก็พบว่าผู้ต้องสงสัยคือ เจ้าหน้าที่รัฐที่เคยทำงานในโครงการพัฒนาชุมชน และถูกจับกุมในเดือนพฤศจิกายน 2559 รวมเวลาการคลี่คลายปริศนาคดีนี้ 18 ปี

คดีที่ 3: สร้างภาพจำลองเหตุการณ์ ช่วยจับฆาตกรล่วงละเมิดเด็ก

คดีทำอนาจารและฆ่าเด็กหญิง 3 คน ในเจี้ยงเซี่ยน มณฑลซานซีเมื่อเดือนเมษายน 2553 เป็นหนึ่งในคดีที่สะเทือนขวัญที่สุด เด็กหญิงเหล่านี้ถูกล่อลวงไปที่ถ้ำร้าง ฆาตกรทำอนาจารเด็กก่อนฆ่าโหด ทีมสอบสวนทำงานหลายปีแต่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ แม้จะมี DNA ของคนร้ายในฐานข้อมูลก็ตาม

การตรวจสอบลายมือเพื่อคลี่คลายคดีฆาตกรรมเมื่อปี 2541 ในไคหลี่ มณฑลกุ้ยโจว
หลิว จงอี้ นำทีมไปยังพื้นที่เกิดเหตุ และใช้เทคนิค "การจำลองเหตุการณ์" วิเคราะห์ว่า ฆาตกรต้องเป็นคนท้องถิ่น ที่รู้จักเส้นทางหนีได้ดี หลังจากจำกัดขอบเขตผู้ต้องสงสัย ตำรวจพบเบาะแสว่า ชายวัย 28 ปี ซึ่งเคยถูกสอบปากคำก่อนหน้านี้ แต่รอดตัวมาได้เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ หลังจากตรวจสอบอีกครั้ง พบว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวให้หลบหนีไปหลายปี แต่สุดท้ายก็ต้องสารภาพ

จากการทำงานหนักของทีมของหลิว จงอี้ ทำให้ในปี 2560 อัตราการไขคดีในจีนเพิ่มขึ้น 92.23% เมื่อเทียบกับปี 2559 หลิวได้รับรางวัล "ต้นแบบตำรวจแห่งชาติ" และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักสืบที่เก่งที่สุดของจีน

"ไม่มีอาชญากรคนไหนหนีไปได้ตลอดกาล ถ้าคดีใดอยู่ในมือของเรา มันจะถูกตามล่าจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม" หลิวกล่าว

ปัจจุบัน เขายังคงเดินหน้าสืบสวนคดีที่ยังไม่ได้รับการไขปริศนา และให้คำมั่นว่าการทำงานของเขาจะ "ไม่มีวันสิ้นสุด"

ที่มาข่าว: แปลเรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ หลิว จงอี้ เล่าเรื่องการคลี่คลายคดีปริศนาใหญ่ของจีนที่ยืดเยื้อนับสิบปี เผยแพร่ในสื่อจีน (澎湃新闻/ The Paper)


กำลังโหลดความคิดเห็น