ผู้ประกาศข่าวเอไอกำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะในจีน เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดตัว "ผู้ประกาศข่าวดิจิทัล" ซึ่งสามารถอ่านข่าวได้อย่างแม่นยำ ไม่มีข้อผิดพลาด อีกทั้งทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง นำไปสู่คำถามที่สำคัญว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ควรมีขอบเขตในการใช้งานในภาคสื่อสารมวลชนหรือไม่? อนาคตของผู้ประกาศข่าวและนักศึกษาสาขาผู้ประกาศข่าวจะเป็นอย่างไร?
ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา สื่อหลายค่ายในจีนเริ่มนำ AI ผู้ประกาศข่าวเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรายงานข่าว หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือ สถานีโทรทัศน์ในหางโจว ที่ได้เปิดตัวผู้ประกาศข่าวดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีเอไอขั้นสูงมาช่วยสร้างภาพและเสียงที่เสมือนจริง
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) ก็ไม่น้อยหน้า โดยได้เปิดตัว AI ผู้ประกาศข่าวที่จำลองเสียงและภาพของผู้ประกาศตัวจริงเพื่อรายงานข่าวสำคัญ เช่น การประชุมสภาผู้แทนประชนจีนที่จัดขึ้นทุกปี รวมถึงอีเวนต์สำคัญระดับประเทศ นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ในเมืองอื่นๆ ก็มีการใช้ AI สำหรับงานข่าวและรายการพิเศษเช่นกัน
นอกเหนือจาก AI ที่ทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวแล้ว สื่อหลายแห่งยังเริ่มใช้ AI-generated video หรือวิดีโอที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์แทนการใช้ภาพจริง เช่น รายงานข่าวเกี่ยวกับการอพยพ นกอพยพ หรือคำอธิบายปรากฏการณ์สภาพอากาศ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้เนื้อหาข่าว
เมื่อเอไอ สามารถทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวได้อย่างแม่นยำ และไร้ความผิดพลาด นักศึกษาสาขาผู้ประกาศข่าวจำนวนไม่น้อยเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของสายงานนี้
"เทคโนโลยีเอไอ ก้าวหน้าขนาดนี้ แล้วพวกเราจะยังมีงานทำอยู่หรือเปล่า?" นี่คือหนึ่งในความคิดเห็นที่พบบ่อยในหมู่นักศึกษาสาขาผู้ประกาศข่าว หลายคนเริ่มคิดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมจะสูงขึ้น และบางคนก็เริ่มวางแผนเรียนต่อปริญญาโทในสาขาอื่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน
ตัวอย่างเช่น "เสี่ยวเฉิน" นักศึกษาผู้ประกาศข่าวปี 3 จากมหาวิทยาลัยในปักกิ่ง กล่าวว่า "ตอนแรกคิดว่าฝึกออกเสียงให้ชัด เรียนรู้การใช้ภาษา และพัฒนาบุคลิกภาพให้ดีพอก็เพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าต้องเรียนรู้อะไรมากกว่านั้น"
เธอเปิดเผยว่า เธอกำลังตัดสินใจเลือกเรียนต่อในสาขากฎหมาย แทนที่จะเรียนต่อด้านผู้ประกาศข่าว เพราะมองว่า AI มีข้อได้เปรียบในเรื่องความแม่นยำของการออกเสียง และการอ่านข่าวอย่างราบรื่น แต่เอไอยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ในเรื่องของการวิเคราะห์ข่าวเชิงลึก และการรายงานข่าวเกี่ยวกับกฎหมายที่ต้องใช้ความเข้าใจทางวิชาการสูง
ขณะที่ "เสี่ยวจาง" นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในเสฉวน กล่าวว่า "ผมไม่คิดว่า เอไอ จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมด เพราะสุดท้ายแล้วข่าวยังต้องการความเป็นมนุษย์อยู่" เขาเชื่อว่าการทำข่าวยังต้องอาศัยการสัมภาษณ์ การแสดงอารมณ์ และการสื่อสารที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ชม ซึ่ง เอไอ ยังทำไม่ได้
ศาสตราจารย์หลิวไห่หมิง จากคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยฉงชิ่ง ให้ความเห็นว่า การนำ เอไอ เข้ามาใช้ในวงการข่าวเป็นเรื่องที่ดี "เอไอ สามารถช่วยลดภาระของผู้ประกาศข่าวในช่วงเวลาดึก หรือการรายงานเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้หมายความว่า AI จะสามารถแทนที่มนุษย์ได้ทั้งหมด"
เขากล่าวว่า "เอไอ จะเข้ามาแทนที่คนบางส่วนแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ไม่พัฒนาและไม่เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ เอไอ จะไม่สามารถแทนที่นักข่าวที่มีทักษะสูง และสามารถทำงานในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้"
เขายกตัวอย่างว่า "เอไอ ไม่สามารถเจาะข่าวแนวสืบสวนสอบสวนได้ เอไอไม่สามารถสัมภาษณ์แหล่งข่าวแบบเผชิญหน้า ไม่สามารถเข้าใจบริบททางอารมณ์ หรือการเล่าเรื่องที่จะส่งอิทธิพลเหนือผู้ชมได้"
ที่มา: 红星新闻