ช่วงตรุษจีนปีนี้ "หลี่รุ่ย" ชายชาวเฉิงตู ได้พาภรรยาและลูกชายวัย 7 ขวบ ออกเดินทางกลับบ้านด้วยวิธีที่ไม่ธรรมดา พวกเขาเลือก "นั่งรถไฟจากสิงคโปร์กลับเฉิงตู" แทนการเดินทางด้วยเครื่องบิน โดยแบ่งเส้นทางออกเป็น 10 ช่วง ใช้เวลาทั้งหมด 12 วัน
หลี่รุ่ยเล่าว่า ครอบครัวของเขาชอบท่องเที่ยว และเคยไปเยือนหลายประเทศมาแล้ว ครั้งนี้จึงอยากลองประสบการณ์ใหม่ "พวกเราเคยไปมาแล้วหลายที่ แต่ไม่เคยเดินทางกลับบ้านด้วยรถไฟแบบนี้มาก่อน"
เส้นทางของพวกเขาเดินทางผ่านเส้นทาง (1) สิงคโปร์ – มาเลเซีย (ยะโฮร์บาห์รู) (2) ยะโฮร์บาห์รู – กิมมาส (3) กิมมาส – กัวลาลัมเปอร์ (4) กัวลาลัมเปอร์ – บัตเตอร์เวิร์ธ (5) บัตเตอร์เวิร์ธ – ปาดังเบซาร์ (6) ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพฯ (7) กรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ (8) เวียงจันทน์ – หลวงพระบาง (9) หลวงพระบาง – สิบสองปันนา (10) สิบสองปันนา – คุนหมิง – เฉิงตู
หลี่รุ่ยเผยว่า การซื้อตั๋วรถไฟในประเทศต่างๆ ไม่ได้ง่ายเหมือนใช้แอปฯ 12306 ในจีน เพราะต้องใช้แอปฯ หลายตัว เช่น KTM ของมาเลเซีย, D-Ticket ของไทย และ LCR ของจีน-ลาว ที่สำคัญคือ ตั๋วรถไฟบางช่วงต้อง "แย่งชิง" กัน เช่น สิงคโปร์ – ยะโฮร์บาห์รู, ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพฯ และ กรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ ถ้าจองไม่ทันอาจทำให้แผนพัง ต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่
แม้การเดินทางจะท้าทาย แต่เขาพบว่ารถไฟแต่ละประเทศมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เช่น รถไฟจากสิงคโปร์ไปมาเลเซีย ใช้เวลาเพียง 5 นาที เพราะระยะทางแค่ 1 กิโลเมตร ในขณะที่รถไฟมาเลเซียจากยะโฮร์บาห์รูไปกิมมาส ใช้เวลา 4.5 ชั่วโมง และแปลกตรงที่ "ประตูรถไฟเปิดตลอดเวลา" ส่วนรถไฟไทย กรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ มีเตียงนอนนุ่มๆ สีแดง และอาหารไทยบนรถไฟอร่อยมาก
หลี่รุ่ยเล่าว่า ลูกชายของเขาชอบการเดินทางแบบนี้ เพราะบนรถไฟมีที่ให้เดินเล่น เวลาว่างก็ทำการบ้านระหว่างทาง "เดินทางไป ก็ทำการบ้านไป สนุกดี"
ค่าใช้จ่ายโดยรวมก็ไม่แพงมาก โดยค่าตั๋วเครื่องบินจากเฉิงตูไปสิงคโปร์: ประมาณ 1,000 หยวน/คน (ประมาณ 5,000 บาท) และค่าตั๋วรถไฟตลอดเส้นทาง: ประมาณ 2,000 หยวน/คน (ประมาณ 10,000 บาท)
หลี่รุ่ยไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวทั่วไป แต่เคย "ปั่นจักรยานรอบโลก" มาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในปี 2013 เขาเริ่มจากอิหร่าน ผ่านยุโรป ไปถึงอเมริกา ข้ามไปแคนาดา แล้วลงไปยังประเทศในอเมริกากลางและใต้ รวมแล้ว ปั่น 20,000 กิโลเมตร ผ่าน 30 ประเทศ ใช้เวลา 1 ปี 4 เดือน
ระหว่างการเดินทาง เขาได้พบกับภรรยาชาวจีนที่รักการปั่นจักรยานเหมือนกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน และยังคงเดินทางแบบ "ลุยๆ" แม้มีลูกแล้ว
แม้จะยังเรียนอยู่แค่ ป.1 แต่ลูกชายของหลี่รุ่ยได้เดินทางไปถึง 41 ประเทศ แล้ว โดยครั้งแรกที่ออกนอกประเทศ คือตอนอายุ 6 เดือน ปี 2023 ครอบครัวเดินทางไปแอนตาร์กติกา (ขั้วโลกใต้) ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ลูกชายตื่นเต้นมาก นอกจากนี้ยังยังปั่นจักรยานจาก ซาอุดีอาระเบีย ผ่านดูไบ ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และยุโรป ใช้เวลารวม 425 วัน
หลี่รุ่ยกล่าวว่า "แม้ลูกยังเด็กและอาจจำไม่ได้ทั้งหมด แต่การได้ออกไปเห็นโลกก็ดีกว่าการอยู่บ้านเล่นแท็บเล็ตแน่นอน!"
หลี่รุ่ยบอกว่า เขาไม่ใช่นักท่องเที่ยวสายหรู และไม่หวังหารายได้จากการเป็นบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว "เราทำสิ่งที่รัก ใช้ชีวิตแบบที่ชอบ ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า แค่ได้ใช้เวลากับครอบครัวและได้ออกไปเห็นโลก ก็คุ้มค่าที่สุดแล้ว"
ที่มา: 上游新闻
