รักงานได้ แต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย! เกิดเหตุชายวัย 40 ปี เป็นลมหมดสติ ขณะต่อแถวรอขึ้นรถไฟความเร็วสูง ที่สถานีรถไฟฉางซาใต้ ในนครฉางซา มณฑลหูหนาน อย่างไรก็ตาม หลังจากแพทย์ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ประโยคแรกที่เขาพูดขึ้นมาทำเอาทุกคนถึงกับอึ้ง
โดยทันทีที่แพทย์ประจำสถานีรถไฟได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก็รีบคว้าอุปกรณ์และพุ่งตัวไปที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็พบว่า ชายคนนี้มีอาการหัวใจหยุดเต้น หายใจแผ่ว รูม่านตาขยาย และมีน้ำลายฟูมปาก จึงลงมือทำ CPR ทันที
กว่า 20 นาที ที่แพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำสถานีต่างร่วมด้วยช่วยกัน ผลัดกันทำ CPR พร้อมกับใช้เครื่อง AED หรือเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ ในการช่วยชีวิตชายคนนี้ จนหัวใจของเขากลับมาทำงานตามปกติอีกครั้ง
แต่แล้วทุกคนก็ต้องอึ้ง เพราะพอชายคนนี้รู้สึกตัว เขากลับพูดขึ้นมาว่า "ผมต้องรีบขึ้นรถไฟไปทำงาน" และไม่ยอมไปโรงพยาบาล ก่อนที่จะยอมไปเพราะถูกแพทย์เกลี้ยกล่อม เนื่องจากศีรษะของเขาอาจได้รับบาดเจ็บในตอนที่เป็นลมหมดสติ
หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนหนึ่งก็บอกว่า พวกเขาเข้าใจและเห็นอกเห็นใจชายคนนี้ ขณะที่อีกส่วนรู้สึกว่าชายคนนี้บ้างานเกินไป เช่น "แรงงานที่น่าสงสาร" "ฉันในวัย 40 เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี" "ยอมตายดีกว่าตกงาน" "นี่ไม่ใช่คนงานต้นแบบเหรอ?" "ดูสิว่าต้องกดดันมากขนาดไหน ไม่สนชีวิต สนแต่เรื่องงาน" "ชีวิตลำบากแท้!" "เกือบไม่รอดอยู่แล้ว ยังจะไปทำงานอีก" และ "ทำงานหนักเหมือนวัวเหมือนควายของแทร่"
ที่มา : 男子心脏骤停被救醒 第一句话“要赶去上班”引发网民感叹