xs
xsm
sm
md
lg

จีนของขึ้น! สื่อออสซี่ขนานนาม "DeepSeek" ว่าเป็น "ChatBot พรรคคอมมิวนิสต์จีน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชั้นนำจากจีน กลายเป็นประเด็นร้อนในระดับนานาชาติ หลังจากที่ได้เปิดตัวโมเดลภาษาใหม่ DeepSeek-R1 ซึ่งแสดงศักยภาพในการประมวลผลที่เทียบเท่ากับโมเดลชั้นนำของโลก แต่ใช้ต้นทุนต่ำกว่าและเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์ส อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้กลับไม่พ้นจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะจากสื่อในประเทศตะวันตก

สำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับ DeepSeek เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยเนื้อหาหลักมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของบริษัทและผลกระทบทางการเงินที่มีต่อบริษัทเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA รวมถึงศักยภาพในการพัฒนา AI ของจีนที่สามารถฝ่าฟันข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม หัวข้อข่าวกลับสร้างความไม่พอใจอย่างมากในหมู่นักวิชาการจีน เนื่องจากสื่อดังกล่าวเลือกใช้คำว่า "แชตบอตของพรรคคอมมิวนิสต์จีน" ซึ่งถูกมองว่าเป็นการบิดเบือนและสร้างความหวาดกลัวต่อเทคโนโลยีจากจีนโดยไม่จำเป็น นักวิชาการหลายคนแสดงความเห็นว่า การใช้ถ้อยคำลักษณะนี้เป็นการกระตุ้นความรู้สึกเกลียดชังและลดทอนคุณค่าของนวัตกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคมโลก

หลังจากกระแสวิจารณ์ทวีความรุนแรงขึ้น ABC ได้แอบเปลี่ยนหัวข้อข่าวเป็นแบบที่เป็นกลางมากขึ้น โดยใช้หัวข้อใหม่ว่า "DeepSeek คือสร้างกระแสในตลาดการเงินและเปลี่ยนแปลงวงการ AI อย่างไร" อย่างไรก็ตาม ร่องรอยของหัวข้อเดิมยังคงสามารถค้นหาได้ในโซเชียลมีเดียนอกประเทศจีน


แม้ว่าสหรัฐฯ จะเริ่มการตรวจสอบ DeepSeek ในเรื่องความปลอดภัยทางเทคโนโลยี แต่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น NVIDIA, Microsoft และ Amazon กลับรีบยอมรับและนำ DeepSeek-R1 ไปใช้งาน โดย NVIDIA ระบุว่าโมเดลนี้มีศักยภาพในการประมวลผลสูงมากและมีความแม่นยำที่เหนือกว่าในบางด้าน

ขณะเดียวกัน OpenAI บริษัทพัฒนา AI ชั้นนำของโลก ออกมากล่าวหา DeepSeek ว่าอาจละเมิดข้อตกลงการใช้งานของตน โดยอ้างว่า DeepSeek ใช้เทคนิคการกลั่นข้อมูล (Data Distillation) ในการฝึกโมเดลของตน ซึ่งอาจเป็นการดัดแปลงข้อมูลจากโมเดลของ OpenAI  อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่าเทคนิคดังกล่าวเป็นเรื่องปกติในวงการ AI และไม่ถือว่าผิดกฎแต่อย่างใด

การเติบโตของ DeepSeek ไม่เพียงสร้างแรงกระเพื่อมในวงการ AI เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ทั่วโลก บริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น Blackstone Group และ UBS ระบุว่า ความต้องการใช้บริการศูนย์ข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้นทุนการพัฒนา AI ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ที่มา: 环球时报


กำลังโหลดความคิดเห็น