ซู หมิ่น วัย 60 ปี ผู้กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสตรีนิยมในประเทศจีน ประกาศข่าวเสร็จสิ้นการหย่าร้างผ่านบัญชีสื่อโซเชียลเว่ยปั๋วของเธอ พร้อมกับโชว์หนังสือหย่าตาเป็นประกาย ปิดฉากชีวิตคู่อันเส็งเคร็งมานานเกือบ 40 ปี
เรื่องราวของหญิงชาวจีนผู้นี้เป็นกระแสไวรัลมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน จากวีรกรรมขอหย่าขาดจากสามี แล้วก้าวเดินออกจากกะลาสู่โลกกว้างตามลำพัง ไม่สนแม้กระทั่งบ้านที่เคยอยู่ด้วยกันมาในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนัน
บันทึกไดอารี่การเดินทางในรูปวิดีโอ ซึ่งเจาะลึกการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเป็นไทแก่ตัวเอง เผยแพร่บนเว่ยปั๋ว มีผู้ติดตาม 3 ล้าน 5 แสนคน บรรดาแฟนคลับเรียกขานเธออย่างรักใคร่ว่า ป้าซู่ผู้ว่องไวบนถนน
โฟล์คสวาเกนแฮตช์แบ็ก บรรทุกเต็นท์บนหลังคา รถคู่ใจเธอพาไปยังเกือบ 400 เมืองแดนมังกร โดยป้าซู่อาศัยเงินบำนาญเลี้ยงชีพและใช้ชีวิตอยู่บนถนนมาจนถึงทุกวันนี้
การปลดปล่อยตัวเองจากผู้ชายที่หาเลี้ยงเธอด้วยลำแข้งเป็นอาจิณและจากพันธนาการขนบธรรมเนียมได้สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วน
“ไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลยว่าชีวิตคืออะไร จนกระทั่งอายุ 60 ฉันจึงเริ่มเข้าใจอย่างแท้จริง” ป้าซูเล่าถึงการตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตคู่
เธอบอกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงหัวโบราณและอยากจะใช้ชีวิตแต่งงานไปตลอดชีวิต แต่สุดท้ายพลังที่ทุ่มเทไปทั้งหมดกลับไม่ได้อะไรตอบแทนเลย นอกจากถูกทำร้ายทั้งร่างกาย จิตใจ และถูกหลอกปั่นหัวเพื่อเอาเปรียบ
ชีวิตคู่ทำให้ป้าซูเป็นโลกซึมเศร้า วันหนึ่งหลังจากได้ดูวิดีโอติ๊กต็อกของคู่รักที่อาศัยอยู่ในรถตู้และขับท่องเที่ยวไปด้วยกัน เธอจึงตกลงกับลูกสาวว่า เมื่อหลานๆ ออกจากโรงเรียนอนุบาลแล้ว เธอจะหย่า จนกระทั่งในปี 2562 ป้าซู่ก็บอกกับสามีว่า เราเลิกกันเถอะ จากนั้นไปขึ้นศาลหย่าร้าง สามีเรียกเงิน 5 แสนหยวน (2,350,000 บาท) จึงจะยอมเซ็นหย่าให้ เธอเจรจาต่อรองเหลือ 160,000 หยวน (752,000 บาท) ก็ยังมากอยู่ดี แต่เอาวะ เพื่อซื้ออิสรภาพ ป้าซู่คิด
“ก่อนปี 2563 ฉันเป็นแค่แรงงานคนหนึ่งในครอบครัว ไม่นึกอยากลุกขึ้นมาทำอะไร ไม่มีความใฝ่ฝัน ฉันอยากจะดูว่าผู้หญิงรุ่นฉันจะมีโลกที่นอกเหนือการเป็นเมียและแม่ได้หรือไม่”
“เราต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตภายใต้เงาของคนอื่นรึ โลกของเราก็ไม่มีความสำคัญด้วยหรือไง”
การทำเรื่องหย่าเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม ป้าซู่ฉลองชีวิตใหม่ด้วยการซื้อรถแคมเปอร์แวนในเมืองท่าต้าเหลียนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังคงเดินทางต่อไป
เรื่องราวที่ตรึงใจผู้คนหลายล้านในโลกโซเชียล ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ยอดนิยมเรื่อง “ไลก์ อะ โรลลิ่ง สโตน” (Like A Rolling Stone - ดั่งหนึ่งหินที่กลิ้งอยู่) เธอชมว่าสร้างได้เหมือนจริงเปี๊ยบ
เรื่องราวของป้าซูจุดประกายให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทและเสรีภาพทางเพศ บางคนนึกไปถึงนอรา เฮลเมอร์ ในละคร “บ้านตุ๊กตา” (A Doll's House) ของเฮนริก อิบเซ่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยจากข้อจำกัดทางสังคม
ป้าซู่ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี 100 คนของ BBC
ในโพสต์เมื่อวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) เธอเล่าว่าได้นั่งเรือข้ามฟากไปยังหมู่เกาะซีซาในทะเลจีนใต้ เป็นการเดินทางครั้งแรกในปี 2568
“ความยากลำบากในชีวิตได้กำหนดว่าตัวฉันนั้นเป็นใคร”
“คนเคยเป็นสามีเหมือนหินลับมีด ผลักดันให้ฉันแกร่งขึ้น”
“มันไม่สายเกินไปที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวคุณเอง” ป้าซู่ให้ข้อคิด
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์