ทีมทนายความของนายเสอจื้อเจียง เจ้าของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในเมืองชเว โก๊กโก่ ของพม่าติดชายแดนไทย ยื่นหนังสือถึงองค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล อ้างลูกความถูกคุกไทย “ปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม” หวั่นตายคาคุก พร้อมกับขอไม่ให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีน
นายเสอจื้อเจียง หรือเสอหลุนข่าย ชาวจีน ซึ่งถือสัญชาติกัมพูชาด้วยนั้น ถูกจับกุมในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2565 ตามหมายจับของตำรวจสากล ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของรัฐบาลจีนซึ่งกล่าวหาว่าเขาเปิดเว็บพนันผิดกฎหมายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นเจ้าพ่อแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยทางการจีนมีหลักฐานชัดเจน แต่ฝ่ายทนายของนายเสอระบุว่า การจับกุมมีแรงจูงใจทางการเมือง โดยขณะนี้เขาถูกควบคุมตัวในเรือนจำประเทศไทย
ในจดหมายของทีมทนายความจากบริษัทกฎหมาย FTMS Avocats ลงวันที่ 9 มกราคมระบุว่า นายเสอถูกเจ้าหน้าที่และนักโทษในเรือนจำทำร้ายจนเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น การทารุณกรรมเกิดขึ้น หลังจากเขาเปิดเผยว่าตนเองเป็นสายลับให้จีน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่จากสถานทูตจีนยังได้มาข่มขู่ถึงเรือนจำ เขาถูกล่ามโซ่ กักขังเดี่ยว ถูกปฏิเสธให้การรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง และไม่สามารถติดต่อกับทางครอบครัว สิ่งเหล่านี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานระหว่างประเทศอย่างรุนแรง และละเมิดกฎระเบียบของตำรวจสากลเองด้วย
ในจดหมายยังแสดงความหวาดกลัวว่าเขาอาจเสียชีวิตในเรือนจำ พร้อมกับเรียกร้องให้ตำรวจสากลเพิกถอนหมายแดง ซึ่งเท่ากับเป็นใบเบิกทางในการส่งตัวนายเสอไปยังจีน
นายเสอเปิดเผยกับสำนักข่าวอัลจาซีราเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วว่า เขาถูกจับกุม เพราะไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของทางการจีนที่ให้เขาพัฒนาเมืองแห่งหนึ่งในพม่า เพื่อเป็นอาณานิคมของจีน แต่ตัวเขาต้องการทำแค่ธุรกิจ
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเรียกร้องให้ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมมือกันกวาดล้างเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีคนจีนอยู่เบื้องหลัง หลังจากเกิดเหตุนายหวางซิง นักแสดงชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักพาตัวโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเข้าไปยังพม่าเมื่อเดือนนี้ ซึ่งก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ครึกโครมในโลกโซเชียล
ไม่กี่วันหลังจากสำนักข่าวอัลจาซีราออกอากาศสารคดีเกี่ยวกับนายเสอ เขาก็ถูกย้ายไปยังเรือนจำในกรุงเทพฯ ที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดสูงสุดและมีไว้ขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์หรือต้องโทษประหาร
นายเสอถูกจับกุมในกรุงเทพฯ ในขณะที่เขาเป็นหัวหน้าอาณาจักรกาสิโน เอ็นเตอร์เทนเมนต์และการท่องเที่ยวครบวงจร มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเมืองชเว โก๊กโก่ เป็นการลงทุนในนามบริษัท Yatai International Holdings Group ซึ่งยังมีการลงทุนในกัมพูชาและฟิลิปปินส์อีกด้วย โดยบริษัทปฏิเสธการเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายใดๆ รวมทั้งการค้ามนุษย์
นายเสอบอกกับอัลจาซีราว่า เขาถูกเกณฑ์ให้ไปทำงานในฟิลิปปินส์โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน ซึ่งคุมงานด้านข่าวกรองต่างประเทศ เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาหนึ่ง โดยเขาเคยทำงานร่วมกับอดีตนายกเทศมนตรีฟิลิปปินส์ อลิซ กั๋ว หรือที่รู้จักในชื่อ กั๋ว หัวผิง ซึ่งมีสัญชาติจีน แต่ต่อมานายเสอถูกปลดจากสำนักงาน โทษฐานประพฤติมิชอบ และถูกวุฒิสภาฟิลิปปินส์สอบสวนว่าอาจเกี่ยวข้องกับเว็บพนันต่างประเทศที่มุ่งเหยื่อคนจีน
ด้านทางการจีนและไทยยังไม่แสดงความเห็นใดๆ ต่อความเคลื่อนไหวของนายเสอล่าสุดดังกล่าว
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์
