เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน (公安部) ประกาศว่า "เหยียนสือหลิ่ว" (颜十六) หรือชื่อจริง เหยียนม่อเหล่ย (颜某磊) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการหลอกลวงนักแสดงจีนไปยังชายแดนไทย-พม่าเพื่อบังคับให้ทำงานในเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมาย ได้ถูกจับกุมตัวแล้ว และถูกส่งตัวกลับจีนเมื่อวันที่ 25 มกราคม
คดีนี้ได้รับความสนใจจากสังคมจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีนักแสดงจีนหลายรายถูกหลอกไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยในพม่า และถูกขายต่อให้กลุ่มอาชญากรที่บังคับให้ทำงานในธุรกิจผิดกฎหมาย
"เหยียนสือหลิ่ว" คือใคร? จากนักแสดงตัวประกอบสู่ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์
"เหยียนสือหลิ่ว" ยังใช้ชื่ออื่น เช่น เหยียนจวิ้นเฟิง (颜俊枫) หรือเหยียนเชา (颜超) โดยมีฉายาว่า "พั่งจื่อ" (胖子 - อ้วน) เขาเกิดในครอบครัวชนบทที่ยากจนในมณฑลเจียงซูและออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุยังน้อย ต่อมาเขาเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนักแสดงตัวประกอบที่เดินทางไปถ่ายทำในเมืองเหิงเตี้ยน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน
เขาเคยโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า เริ่มต้นจากงานเบื้องหลังเล็กๆ ในกองถ่าย ก่อนจะไต่เต้าจนมาเป็นผู้กำกับ แต่จากคำให้การของคนที่เคยร่วมงานด้วย หลายคนกลับมองว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋นที่ชอบพูดเกินจริงและมักหลอกลวงคนในวงการ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหยียนสือหลิ่ว มีบทบาทในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อิสระ เคยทำงานเป็นหัวหน้ากลุ่มนักแสดงตัวประกอบที่มีหน้าที่จัดหานักแสดงให้กองถ่าย และต่อมาได้อ้างตัวว่าเป็นผู้กำกับ มีบริษัทผลิตภาพยนตร์เป็นของตัวเอง แต่ในความเป็นจริง โปรเจกต์ส่วนใหญ่ของเขากลับไม่มีคุณภาพและขาดแคลนเงินทุน
เมื่อปลายปี 2567 เหยียนสือหลิ่ว ได้เริ่มโพสต์รับสมัครนักแสดงไปถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและกลุ่มแชตของนักแสดง โดยโครงการที่เขาใช้หลอกลวงคือภาพยนตร์ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยภารกิจของตำรวจหญิงในการสืบสวนคดียาเสพติด
คุณสมบัติที่เขาระบุในการรับสมัครนักแสดง ได้แก่ นักแสดงชาย 10 คน อายุ
18-30 ปี สูง 175 ซม.ขึ้นไป ต้องมีประสบการณ์ด้านการแสดง นักแสดงหญิง 10 คน อายุ 18-30 ปี สูง 165 ซม.ขึ้นไป ต้องมีรูปร่างดี และ "ไม่มีพฤติกรรมเอาแต่ใจ" ค่าตอบแทนสูง และถ่ายทำเต็มรูปแบบในประเทศไทย
หลายคนหลงเชื่อและติดต่อเขาเพื่อสมัครงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ หวังซิง (王星) นักแสดงชายชาวจีนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้
กรณีของหวังซิง: จากฝันสู่ฝันร้าย ถูกขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมาย
29 ธันวาคม 2567: หวังซิง เห็นโพสต์รับสมัครงานในกลุ่ม WeChat และติดต่อ เหยียนสือหลิ่ว เพื่อสมัครเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ที่อ้างว่าถ่ายทำที่กรุงเทพฯ
3 มกราคม 2568: หวังซิง เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยมีรถที่ เหยียนสือหลิ่ว จัดหาไปรับ
ต่อมา แทนที่จะถูกพาไปกองถ่ายที่กรุงเทพฯ เขากลับถูกนำตัวข้ามพรมแดนไปยังเมืองเมียวดีของพม่า
หวังซิง ถูกขายให้ Apollo Park ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เขาถูกขายต่อไปยังแก๊งอื่นๆ เช่น "หวนหยา (环亚)" และ "ไค่เสวี่ยน (凯旋)" ซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บังคับให้แรงงานทำงานต้มตุ๋นออนไลน์
หวังซิง ตกอยู่ในสภาพของ "แรงงานทาส" ถูกบังคับให้โทร.หาผู้คนในจีนเพื่อหลอกลวงพวกเขาให้ลงทุนในแพลตฟอร์มปลอม หากปฏิเสธจะถูกทารุณกรรมหรือขายต่อไปยังแก๊งอื่น
การจับกุมและขยายผลคดี
17 มกราคม 2568: กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนออกแถลงการณ์ว่าได้เริ่มขยายผลคดี
25 มกราคม 2568: เหยียนสือหลิ่ว ถูกจับกุมในไทย และถูกส่งตัวกลับจีน
ปัจจุบัน: จีนและไทยร่วมมือกันจับกุมเครือข่ายนี้แล้ว 12 ราย และกำลังตามล่าผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ
ทางการจีนได้ออกคำเตือนให้ประชาชนระวังการหลอกลวงที่มาในรูปแบบ "งานในต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูง" และควรตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อนเดินทางออกนอกประเทศ
ที่มา: 新京报