xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ใช้ AI พูดจีนคล่อง : โอกาสและความเสี่ยงในมุมมองของจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online : ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เสกให้นายกฯ ไทย พูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว โดยในประเทศจีน AI คืออาวุธใหม่ช่วยธุรกิจสื่อจีนเติบโตสวนกระแสโลก แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องความถูกต้องของเนื้อหา และจริยธรรม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้เทคโนโลยี AI พูดภาษาจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนถึงความปลอดภัยของการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยสื่อสารมวลชนจีนได้ใช้ AI กันอย่างแพร่หลาย และช่วยดันรายได้เพิ่มถึง 8.3% ตามการเติบโตของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนที่ขณะนี้มีมากเกือบ 1,100 ล้านคน

สื่อมวลชนทั่วโลกต่างเผชิญแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หลายสื่อต้องปลดลดพนักงาน หลายสื่อถึงกับเลิกกิจการ แต่สื่อมวลชนจีนกลับเติบโตสวนกระแส โดยในปีที่ผ่านมา สื่อจีนมีรายได้มากกว่า 3.15 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 8.31%

สมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศจีน (All China Journalists Association) เผยแพร่รายงานเรื่อง “พัฒนาการของสื่อใหม่ในจีน” (Development of China’s News Media) ปี 2024 ระบุว่า สื่อมวลชนจีนได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่แพลตฟอร์ดิจิทัลอย่างถ้วนหน้า มีสื่อที่ได้รับอนุญาตมากถึง 14,228 ราย ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และบัญชีทางการในโซเชียลมีเดีย


ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI คือส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสื่อจีนยืดหยัดอยู่ได้ สำนักข่าวและสื่อต่างๆ ได้ลงทุนและเพิ่มบุคลากรด้านนี้อย่างจริงจัง และใช้ AI ช่วยในการรายงานสด สร้างคอนเทนต์แบบอัตโนมัติ สร้างผู้ประกาศข่าว AI วิเคราะห์ความต้องการของผู้อ่าน และผลิตเนื้อหาที่ตรงใจ นอกจากนี้ AI ยังช่วยลดภาระงานของผู้คนในวงการสื่อ และช่วยให้จีนก้าวข้ามกำแพงภาษา เผยแพร่เนื้อหาไปสู่โลกได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม AI ก็มีความท้าทายในเรื่องความถูกต้องของเนื้อหา และจริยธรรมของการใช้สื่อ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง หรือ Generative AI สามารถปลอมเป็นบุคคล และปลอมเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน

ในรายงานเรื่อง AIGC Panorama Report of Application in China ประเมินว่า ขนาดตลาดของ Generative AI ในประเทศจีนปี 2024 สูงถึง 20,000 ล้านหยวน และจะพุ่งขึ้นเป็น 1 ล้านล้านหยวนในปี 2030

สื่อจีนได้ใช้ AI ในแทบทุกทุกวงการ ทั้งสำนักข่าว โทรทัศน์ ภาพยนตร์ และดนตรี สร้างรายได้ในอุตสาหกรรมสื่อมากถึง 3.1 ล้านล้านหยวน โดยในปี 2024 แพลตฟอร์มดิจิทัลสร้างรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ 1.4 ล้านล้านหยวน เติบโตสูงถึง 13.74% จากปีก่อนหน้า


นายติง เซวเสียง รองนายกฯ จีน ได้พูดถึงบทบาทของปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการประชุมประจำปีของฟอรัมเศรษฐกิจโลก 2025 ที่เมืองดาวอส ว่า AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลังสำหรับการพัฒนาได้ แต่อาจกลายเป็นความเสี่ยงได้เช่นกัน จีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการพัฒนาและความปลอดภัย ซึ่งก็เหมือนกับการขับรถบนทางด่วน ผู้ขับขี่จะไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะเหยียบคันเร่งหากไม่แน่ใจว่าเบรกทำงานได้หรือไม่ จีนกำลังพัฒนา AI เพื่อจุดประสงค์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สร้างความทันสมัยและส่งมอบชีวิตที่ดีขึ้นให้ชาวจีนกว่า 1,400 ล้านคน

รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า การกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกเป็นความท้าทายสำหรับทั้งโลก หากปล่อยให้ประเทศต่างๆ ดำเนินไปอย่างไร้ระเบียบวินัย เทคเหล่านั้นก็จะกลายเป็น “แรดเทา” (ภัยคุกคามที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่มักถูกละเลยหรือไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม) ประเทศต่างๆ ควรจะหารือร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ จะกลายเป็น “ถ้ำสมบัติของอาลีบาบา” แทนที่จะเป็น “กล่องแพนโดร่า”


สมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศจีน ระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงการสร้างเนื้อหาที่ประชาชนรับรู้ แต่ก็ต้องเน้นย้ำเรื่องคุณภาพชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน แนวทางปฏิบัติทางจริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม

ทุกวันนี้ เราได้เห็นเนื้อหาที่ผลิต AI แพร่หลายมากขึ้น หลายชิ้นแนบเนียนจนแยกไม่ออกว่าเป็น “ของจริง-คนจริง” หรือเป็น “ภาพลวง” ที่ถูกสร้างขึ้น ในเมื่อนายกฯ ไทยพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว ประชาชนก็อาจจะได้รับโทรศัพท์เป็นเสียง AI ของใครสักคนจากแก๊งคอลเซนเตอร์ก็เป็นไปได้


กำลังโหลดความคิดเห็น