สถานกงสุลใหญ่ของไทย ณ เมืองฮ่องกงเดินหน้าสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวฮ่องกง ออกแถลงการณ์ยืนยัน ประเทศไทยมีความปลอดภัยในการเดินทางมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ชาวฮ่องกง 12 คน ตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งหลอกให้เดินทางมาไทยเพื่อทำงาน จากนั้นส่งต่อไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นศูนย์รวมมิจฉาชีพออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน
ตามแถลงการณ์เมื่อวันพุธ ( 22 ม.ค.) สถานกงสุลเข้าใจดีว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักเดินทางชาวฮ่องกงวิตกเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากปฏิบัติการลักลอบค้ามนุษย์และการหลอกลวงได้ใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านแดนเพื่อดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ทางสถานกงสุลขอรับรองว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับผู้มาเยือนต่างชาติ เนื่องจากยังไม่ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวตกเป็นเหยื่อหรือถูกลักพาตัวบนท้องถนนโดยขบวนการเหล่านั้น
สถานกงสุลยังระบุว่า รัฐบาลไทยได้ประสานความร่วมมือกับชาติเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้น มีการหารือกันในทุกระดับ โดยในการประชุมที่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยได้เห็นพ้องร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและพม่าในการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีศูนย์รวมอยู่ในพม่า
นอกจากนั้น ทางการไทยยังได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อจัดการกับการค้ามนุษย์และปกป้องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงจัดการกับข่าวปลอมและข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการหลอกลวงจ้างงานบนโซเชียลมีเดีย การจัดกำลังตำรวจท่องเที่ยวอย่างเพียงพอในพื้นที่เสี่ยง พร้อมกับเปิดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวใน 6 ภาษา การจัดกำลังทหารและตำรวจตามแนวชายแดนด้านตะวันออกและตะวันตกของประเทศใน 14 จังหวัด ซึ่งมีการติดป้ายเตือนและบุคคลที่เดินทางมายังพื้นที่ชายแดนจะถูกสอบถามเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และแผนการเดินทาง
ในส่วนของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงเองยังได้ติดแบนเนอร์คำเตือนชาวฮ่องกงที่กำลังหางานทำในประเทศไทยเพื่อการติดต่อและตรวจสอบอีกด้วย
สำหรับความช่วยเหลือชาวฮ่องกงที่ตกเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น สำนักงานตำรวจฮ่องกงได้ส่งคณะทำงานเฉพาะกิจมาพบกับตำรวจไทยและเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทยเมื่อวันพุธ (22 ม.ค.) เพื่อประสานงานในการส่งกลับชายฮ่องกงวัย 29 ปี ซึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ควบคุมตัวในพม่าและได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอาทิตย์
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ / เดอะ สแตนดาร์ด